หากผู้อ่านเคยเล่นหุ้น คุณคงเคยเห็นผ่าน ๆ อยู่บ้างว่าการเทรดหุ้นก็ไม่ต่างอะไรกับการพนัน เนื่องจากทุก ๆ อย่างมีความผันผวน เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้มากนัก จะขึ้นจะลงขึ้นอยู่กับดวงล้วน ๆ
คำกล่าวนี้ก็ไม่ผิดไปซะทีเดียวหรอก โดยเฉพาะในวงการคริปโต ที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าตลาดอื่น ๆ อยู่มาก เมื่อได้ยินคำดังกล่าว บางคนอาจจะบอกว่าตัวเขานั้นเป็นนักลงทุนในคริปโต แต่ว่าความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เขาทำอยู่นั้นคือการลงทุนหรือการพนันกันแน่ ?
นักพนัน
การที่จะแยกนักพนันออกจากนักลงทุนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก สามารถสังเกตได้จาก จากความรู้ ความเข้าใจในสิ่งที่เขาลงทุนอยู่ หากคุณคือผู้ที่หูเบา ใครมาบอก มาเล่า มาชวนเชื่ออะไรนิดหน่อย ก็ตัดสินใจลงทุน All-in กับสิ่งนั้นทันที โดยแทบจะไม่ผ่านการใคร่ครวญ ไตร่ตรองใด ๆ หากผู้อ่านรู้ตัวว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ คุณควรจะเปลี่ยนนิสัยเหล่านั้นซะ เพราะนั่นคือสิ่งที่นักพนันเขาทำกัน
นักพนันคือผู้ที่หวังพึ่งดวง การลงทุนจะเป็นการพนันก็ต่อเมื่อ ผู้ลงทุนไม่ได้ศึกษาค้นคว้าถึงสิ่งที่กำลังลงทุนอยู่เป็นอย่างดี ไม่มีความเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร ทำไมมันถึงมีมูลค่า เราจะได้รับผลตอบแทนจากอะไร การหลับตาเชื่อแบบผิด ๆ นี้ไม่ต่างอะไรเลยกับการโยนหัวก้อยวัดดวง ถ้าทายถูกคุณก็รอดตัวไป แต่ถ้าผิดคุณจะสูญเสียเงินที่หามาอย่างเหนื่อยยากนั้นให้กับความใจร้อนภายไปในพริบตา
นอกจากนี้นักพนัน ยังไม่มีกลยุทธ์ใด ๆ เลยในการลงทุน เขาจะไม่มีการบริหารความเสี่ยง ทุก ๆ รอบที่เขาใส่เงินเข้าไปนั้นจะเป็นการ All-in เพราะคิดว่าวิธีนั้นจะให้ผลตอบแทนมากที่สุด ซึ่งไม่จริงเสมอไป การ All-in แบบขาดสติในสิ่งที่ไม่รู้จะทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถจัดการบริหารความเสี่ยงใด ๆ ได้เลย ไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่าอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร ควรจะแบ่งทุนเอาไว้หลาย ๆ ก้อนเพื่อรองรับในหลายสถานการณ์เสมอ ถึงแม้จะ All-in แล้วมันไปในทิศทางที่คาดไว้ นอกจากมันจะส่งเสริมนิสัยในการลงทุนที่ผิดแล้ว ยังมีสิทธิที่นักลงทุนจะนำเงินที่เพิ่มขึ้นมาทั้งหมดนั้นไป All-in ต่ออีกรอบอยู่ดี เพราะความโลภชักนำ ซึ่งแน่นอนว่ามีิสิทธิที่จะสูญทุนไปทั้งหมด ถึงแม้ไม่มีใครอยากจะเจอสถานการณ์แบบนั้น แต่ทว่าผู้ที่เรียกตนเองว่านักลงทุนหลาย ๆ คนกลับมีพฤติกรรมเช่นนี้อยู่
ยกตัวอย่างเช่น นายสมชายเป็นนักเทรดคริปโตมือใหม่ พึ่งรู้จัก Bitcoin ว่ามันคือเทคโนโลยีสุดล้ำที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกของเรา เขาได้ทำการสมัครเว็บเทรดพร้อมยืนยันตัวตนเรียบร้อย ตอนนี้เขาพร้อมที่จะทำกำไรแล้ว แต่ว่าเขาไม่มีความรู้อะไรเลย ว่า Bitcoin ทำงานอย่างไร ข้อดี ข้อเสียคืออะไร รวมถงไม่รู้จักกาบริหารความเสี่ยง ด้วยความไม่รู้เขาจึงเข้าไปอ่านในแชทรวมของเว็บเทรดเว็บนั้น เจอผู้ใช้นาม สมศักดิ์ ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลโชว์ลงไปในแชทอย่างเซียน ด้วยความมือใหม่เขาได้ตัดสินใจที่จะเชื่อสมศักดิ์ดู พอเขาบอกให้เข้าซื้อ สมชายได้ All-in ทุ่มทุกบาททุกสตางค์ของเขาเพื่อหวังจะกำไรในเร็ววัน แต่ปรากฎมีข่าวออกมาว่าประเทศจีนสั่งแบน Bitcoin ราคาร่วงลงอย่างรวดเร็ว 30 เปอร์เซ็นต์ในภายหนึ่งชั่วโมง สมชายคิดว่าเดี๋ยวอีกสักพักก็เด้งกลับมา แต่ปรากฎว่าราคากลับยิ่งร่วงไปอีก 50 เปอร์เซ็นตต์ เขาทนไม่ไหวจึงตัดสินใจขายไป ทำให้ทุนของเขาหายไป 50 เปอร์เซ็นต์ ภายในหนึ่งวัน เป็นต้น
นักลงทุน
การที่ไม่มีความรู้ใด ๆ แล้วเชื่อคำพูดของคนอื่นเวลลงทุนในโลกคริปโตนั้น ไม่ต่างไปจากการเดินทางเข้าถ้ำที่ไม่มีแสงไฟ เดินไปท่ามกลางความมืดมิดตามคำบอกเล่าของผู้อื่นเพราะเชื่อว่าจะมีสมบัติอยู่ปลายทาง แต่พวกเขาไม่ได้บอกว่าในถ้ำนั้นมีสัตว์ร้ายที่พร้อมจะโจมตีนักเดินทางอาศัยอยู่ มีหลุดบ่อที่ขัดขวางให้สะดุดล้ม และอุปสรรคต่าง ๆ อีกมากมายที่มองไม่เห็นที่ปากทางเข้าถ้ำ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เปรียบเสมือนข้อเสีย หรือช่องโหว่ของสิ่งที่เราลงทุน หากเราฟังแต่ด้านดี ๆ มาและไม่ศึกษาให้ดีซะก่อน เราก็ไม่ต่างอะไรเดินเข้าถ้ำที่มืดมิดนี้เลย
แต่หากผู้อ่านอยากเป็นนักเดินทางที่สามารถเข้าไปในถ้ำแล้วนำสมบัติกลับมาได้นั้น ท่านต้องมีไฟฉาย เพื่อสาดส่องส่องแสงสว่างให้เห็นถึงอุปสรรคหลุมบ่อต่าง ๆ ที่รอท่านอยู่ภายในถ้ำซะก่อน แสงไฟที่ว่าคือความรู้,ความเข้าใจ และการบริหารความเสี่ยงนั่นเอง
หากท่านอยากเป็นนักลงทุน ท่านก็ควรจะทำตัวแบบนักลงทุน สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือ
- ความรู้และความเข้าใจต่อสิ่งที่ท่านลงทุนอยู่
นักลงทุนจะมีความรู้ ความเข้าใจถึงสิ่งเหล่านั้นเป็นอย่างดี ศึกษาทำการบ้านถึงสิ่งที่ลงทุนเป็นอย่างดีจน รู้ถึงข้อดี ข้อเสีย ยกตัวอย่างเช่น หากท่านเป็นนักลงทุนที่เลือกจะลงทุนใน Bitcoin เขาจะศึกษาพฤติกรรมของมันซะก่อนว่าเวลาข่าวนี้เกิด ราคาของมันจะเป็นอย่างไร รู้ว่าตอนนี้ ข้อเสียของมันคือใช้เวลาในการทำธุรกรรมที่นาน และมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าคริปโตตัวอื่น ถ้าเกิดมีข่าวประกาศมา เช่น Lightning Network ประกาศว่าหากเปิดใช้งานแล้ว จะสามารถทำธุรกรรมได้ 1,000,000 ธุรกรรมต่อวินาทีและไม่มีค่าธรรมเนียมเวลาทำธุรกรรม นักลงทุนก็ทราบว่ามันจะสามารถหักล้างข้อเสียได้ มูลค่าของมันต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน หากนักลงทุนรู้ข่าวก็จะเข้าซื้อตั้งแต่ราคายังต่ำเนื่องจากเขาทราบดีว่ายังไงก็ตามในอนาคตมูลค่าของมันต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน เป็นต้น
- ความรู้ในการบริหารความเสี่ยง
นักลงทุนที่ดีนั้นต้องรู้จักการบริหารความเสี่ยงของตัวเอง หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้และได้ผลที่สุดคือการแบ่งเงินลงทุนเป็นหลาย ๆ ก้อน คือไม่ All-in นั่นเอง หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการแบ่งเงินเป็นหลายก้อนนั้นจะทำให้ได้กำไรน้อยลง แต่มันไม่แน่เสมอไป เนื่องจากในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนรุนแรงยิ่งกว่าตลาดอื่นนี้ เรายิ่งไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้เลยว่า จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ซึ่งวิธีรับมือกับเหตุการณ์นั้น คือการค่อย ๆ ทยอยลงทุน หากลงให้รอช้อน หากขึ้นให้รอตาม แบบนี้จะทำให้สามารถอยู่รอดในตลาดนี้ และทำกำไรกับมันได้ในระยะยาว หากเรา All-in เสมอ อย่าว่าแต่กำไรเลย แค่อยู่รอดยังสามารถทำได้ยากด้วยซ้ำไป
สำหรับนักลงทุนใหม่นั้น อาจจะจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าตนเองควรเริ่มต้นที่ไหน ทาง Siam Blockchain เคยได้เขียนบทความแนะนำไปก่อนหน้านี้แล้วว่าควรเริ่มศึกษาอะไรก่อนที่จะลงทุนในวงการคริปโต การลงทุนในคริปโตไม่ใช่เรื่องยาก แค่เราต้องศึกษาให้ดี ให้เวลากับมันซักหน่อย แล้วจะพบว่าการเป็นนักลงทุนในคริปโตนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ส่วนตอนนี้ผู้อ่านควรถามตนเองว่า เรามีไฟฉายสำหรับถ้ำที่เรากำลังจะเดินเข้าไปหรือยัง ?
The post บทความ : คุณเป็นนักพนันหรือนักลงทุนคริปโต ? appeared first on Siam Blockchain.
No comments:
Post a Comment