Friday, September 28, 2018

Ripple นำเงินกว่า 105 ล้านดอลลาร์ ลงทุนด้านการศึกษาและการเงิน

Bitmain เปิดเผยข้อมูลทางการเงินเป็นครั้งแรก ขาดทุน 395 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2018

Baidu เผย White Paper อย่างเป็นทางการผ่าน Blockchain Lab สำหรับเครือข่าย XuperChain

ผู้ดูแลกฎหมายคริปโตฝรั่งเศสขึ้นบัญชีดำอีก 21 เว็บไซต์ด้าน Cryptocurrency

“Bitcoin มีโอกาสไปแตะระดับ 100 ดอลลาร์” กล่าวโดยนักวิเคราะห์ด้านการเงินจากตลาด Forex

บริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยนาม Marsh ร่วมมือกับ IBM ในการใช้ Blockchain Solution

สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ออกร่างกฎหมายตั้งหน่วยงานต่อกรการใช้คริปโตของผู้ก่อการร้าย

รายงานเผย: แอปฯ อย่างน้อย 25 ตัวของ Android บน Google Play store ได้ฝัง “Cryptojacking”

“Ethereum จะไปแตะ 1,900 ดอลลาร์ ภายในปลายปี 2019” กล่าวโดยนาย Tom Lee

Goldman Sachs นำการระดมทุนให้สตาร์ทอัพด้าน Blockchain ได้เงินระดมทุนกว่า 25 ล้านดอลลาร์

AT&T เปิดตัว Blockchain Solution สำหรับด้าน Supply Chain และการดูแลสุขภาพ

รัฐบาลออสเตรียจะใช้ Blockchain ของ Ethereum รับรองการประมูลพันธบัตรของรัฐบาล

บริษัท DELL EMC มีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยี Blockchain เพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตของธุรกิจ

Thursday, September 27, 2018

ผู้ก่อตั้ง Zcoin และ TDAX รีแบรนด์เว็บเทรดเป็น Satang Pro ชูจุดแข็งฝากถอนเงินบาทได้ทันที 24 ชั่วโมง

บริษัท Startup ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระดมทุน 103 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างธนาคารคริปโต

แบบสำรวจ: ชาวอเมริกาส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว Bitcoin คืออะไร

SBI Ripple Asia เตรียมตัวที่จะเปิดแอปฯ ชำระเงินผ่านระบบ Blockchain สำหรับบุคคลทั่วไป

ย้อนมองตลาดคริปโตปี 2016: หากเทียบกับของปีนี้ เรากำลังอยู่ในจุดไหน

บริษัทผลิตเครื่องขุดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก Bitmain ประกาศขายหุ้น IPO อย่างเป็นทางการ

บริษัทด้านการเงินยักษ์ใหญ่ Circle ออกเหรียญ Stablecoin ออกมาแข่งกับ USDT

รัฐเวสต์เวอร์จิเนียเริ่มนำแอปมือถือสำหรับใช้ลงคะแนนเลือกตั้งผ่าน Blockchain มาใช้แล้ว

FedEx ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ล่าสุดของ Hyperledger เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า บนระบบ Blockchain

Wednesday, September 26, 2018

Samsung เตรียมพัฒนาชิพสำหรับเครื่อง ASIC ให้กับบริษัทขุด Bitcoin สัญชาติแคนาดา

DApps คืออะไร และมันจะเป็นอนาคตของวงการคริปโตจริงหรือไม่ ?

รายงานเผย: กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของ ICO นั้นยังไม่สามารถทำสำเร็จ

เจ เวนเจอร์สเตรียมขาย JFIN Coin 2 ล้านโทเคนภายในปี 63 เล็งขยายธุรกิจเข้าตลาดหุ้น mai

สถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่ SBI Group ทดลองใช้โทเคนคริปโตในการซื้อของ

วิจัยจาก Chainalysis เผย นักลงทุนคริปโตส่วนใหญ่เลือกที่จะถือคริปโตในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา

บริษัทด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ Vicinity จะใช้ Blockchain บริหารพลังงานจากแผงโซล่าเซลล์

ธนาคาร 75 แห่ง เข้าร่วมโครงการนำร่องทดลองการทำธุรกรรมด้วย Blockchain ของ JPMorgan

หน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่นกำลังหาคำตอบที่เว็บเทรดคริปโต Zaif โดนแฮ็กกว่า 60 ล้านดอลลาร์

เว็บเทรด Coinbase กำลังจะอัพเกรดกระบวนการลิสต์โทเคน ให้ลิสต์เหรียญได้มาก และไวยิ่งขึ้น

ทนายที่ดูแล Mt.Gox เผย ได้เทขาย BTC และ BCH ไปแล้วกว่า 230 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนมีนาคม

ราคา XRP พุ่งสูงหลังจากที่เว็บเทรด Coinbase กล่าวว่าจะลิสต์เหรียญอีกครั้ง

บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สัญชาติไทยจัดงานประชุม Blockchain ริมหาดภูเก็ต เล็งให้ทั้งจังหวัดใช้คริปโต

รายงาน: Google เตรียมยกเลิกบล็อคโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเว็บเทรดคริปโตในสหรัฐฯและญี่ปุ่น

Tuesday, September 25, 2018

หาก Bitcoin ถูกขุดได้มากกว่า 21 ล้าน BTC อะไรจะเกิดขึ้น ?

ค้นพบ Bug ใน Bitcoin ที่ทำให้สามารถขุดได้มากกว่า 21 ล้านเหรียญ แต่ได้รับการแก้ไขแล้ว

Europol: ผู้ก่อการร้ายยังคงใช้ธนาคาร ไม่ได้ใช้คริปโตสักเท่าไร

วิจัยเผย “จะมีปริมาณการเทรดในตลาดคริปโตเพิ่มขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2019”

เว็บเทรดคริปโตในแอฟริกาใต้ ขอให้ประธานาธิบดีโคลัมเบียเปิดให้บริการอีกครั้งหลังถูกปิด

Ebang เปิดตัวเครื่องขุดใหม่ โดยเคลมว่าเป็นเครื่องขุด Bitcoin ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในตลาด

แบบสำรวจ: 1 ใน 3 ของชาวลอนดอน มีแผนที่จะลงทุนในคริปโต ซึ่งเป็นจำนวนสองเท่าจากค่าเฉลี่ย

Trezor ฮาร์ดแวร์ Wallet ชื่อดัง เปิดให้ผู้ใช้สามารถซื้อ และเทรดคริปโตผ่าน Wallet ได้เลย

Walmart จะใช้เทคโนโลยี Blockchain กับ Supplier ในการระบุว่าผักผลิตมาจากที่ไหนภายในปีหน้า

นาย Vitalik Buterin กล่าว “Ethereum จะสามารถทำธุรกรรมได้ 500 รายการต่อวินาทีด้วย zk-snarks”

วิจัยใหม่จาก BIS เผย “ข่าวด้านกฎหมายส่งผลต่อราคาของ Bitcoin”

สโมสรฟุตบอลชื่อดัง Juventus เตรียมออกคริปโตของตัวเอง เพื่อขยายฐานแฟนคลับทั่วโลก

ธนาคารกสิกรไทยเตรียมทดสอบระบบโอนเงินต่างประเทศผ่าน Blockchain ของ Visa

Monday, September 24, 2018

ทำไมคริปโตถึงเป็นตัวเลือกที่ใช้ในการเรียกค่าไถ่

ผลวิจัยชี้ การสร้าง USDT ไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin

กองทัพเรือสหรัฐฯ กำลังทดลองใช้ Blockchain ในการติดตามชิ้นส่วนของเครื่องบิน

โบรกเกอร์รายใหญ่ของบราซิลเปิดตลาด Bitcoin และ Ethereum

“เราจะได้เห็น Bitcoin ราคา 10,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2018” นาย Novogratz กล่าว

ก.ล.ต. เผยเว็บไซต์ Financial.org ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

กระทรวงการคลังของดูไบเปิดตัวระบบการทำธุรกรรมที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อความโปร่งใส

ประธานาธิบดีของเวเนซุเอลาเชื่อ เหรียญคริปโต Petro จะช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ

Superrich สีส้ม รอ ก.ล.ต. และ ธปท. อนุมัติ ก่อนเปิดให้บริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล

Bitmain ยักษ์ใหญ่วงการขุดคริปโตประกาศเปิดตัวชิพขุด Bitcoin 7nm ตัวใหม่

Browser Brave ใช้แพลตฟอร์ม Blockchain นาม Civic ในการยืนยันผู้เผยแพร่บทความ

Friday, September 21, 2018

ราคาเหรียญ XRP พุ่ง มูลค่าตลาดรวมแตะ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ อันดับแซง Ethereum ขึ้นที่ 2

ผู้สมัครทางการเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนียอาจไม่สามารถรับเงินบริจาคในรูปแบบสกุลเงินคริปโต

รายงานเผย: อาชญากรรม Cryptojacking เพิ่มขึ้น 459 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นข้อความผิดของ NSA

บริษัทผู้ผลิตเครื่องขุด Bitcoin ผลิตเครื่องชงกาแฟที่ชำระด้วย Bitcoin ผ่าน Lightning Network

ธนาคารยักษ์ใหญ่ในโปแลนด์เปิดตัวแพลตฟอร์ม Blockchain ในการบริหารเอกสารของลูกค้า

UN Women เตรียมใช้ Blockchain เพื่อโอนเงินให้ผู้ลี้ภัยในจอร์แดน

BitFury บริษัทผู้ผลิตเครื่องขุด Bitcoin เผย Chip ตัวใหม่สำหรับขุด Bitcoin

ราคาเหรียญ XRP พุ่งสูงขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เป็นครั้งที่สองของสัปดาห์นี้

รายงาน: ก.ล.ต. สหรัฐฯเลื่อนการตัดสินอนุมัติ Bitcoin ETF ของ VanEck, SolidX ออกไป

Thursday, September 20, 2018

เว็บเทรดคริปโตญี่ปุ่นสูญเสียเงินไปกับการถูกแฮ็คกว่า 540 ล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2018

รัฐมนตรีของเยอรมนีกล่าวว่า “Cryptocurrency ไม่สามารถถูกนำมาใช้งานแทนสกุลเงินแบบดั้งเดิมได้”

มหาวิทยาลัย New York เปิดคณะด้านเทคโนโลยี Blockchain ในระดับปริญญาตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

LINE มีแผนที่จะเปิดตัว Token คริปโตสำหรับระบบเศรษฐกิจ

เว็บเทรดญี่ปุ่นนาม Zaif ถูกแฮ็ก สูญเสีย Bitcoin ไปกว่า 60 ล้านดอลลาร์

รายงาน: เหรียญของ SIX Network ถูกลิสต์ขึ้นเว็บเทรดนาม Liquid และ Coinsuper เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Binance มีแผนเตรียมตัวเปิดเว็บเทรดทุก ๆ ทวีป และจะเป็นรูปแบบสกุลเงิน Fiat กับคริปโต

“Onecoin เป็นแชร์ลูกโซ่ธรรมดานั่นเอง” โดยผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต.

เว็บเทรด Coinbase ได้จ้างหัวหน้าฝ่ายกฎหมายคนใหม่เพื่อเป็นการขยายทีมการทำงานของพวกเขา

Wednesday, September 19, 2018

“โครงการเหรียญคริปโต ‘อินทนนท์’ จะมีความเป็น Decentralized” โดยผู้บริหารระดับสูงแบงก์ชาติ

นักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้ถูกลักพาตัวเป็นเวลาสองเดือน เรียกค่าไถ่ด้วย Bitcoin ถูกปล่อยตัวแล้ว

เว็บเทรด Bithumb และ Coinone ยกเลิกการถอนเงิน Fiat สำหรับนักเทรดที่ไม่ทำการยืนยันตัว

ธนาคารพาณิชย์ที่ซาอุดิอาระเบียเข้าร่วมกับ RippleNet พัฒนาธุรกรรมระหว่างประเทศให้เร็วขึ้น

เว็บเทรด Coinbase จ้างผู้บริหาร LinkedIn มาทำตำแหน่งหัวหน้าด้านข้อมูล

Tuesday, September 18, 2018

ผู้ก่อตั้งกองทุนด้าน Blockchain มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ วางแผนที่จะออก ‘USDT เวอร์ชันเงินเยน’

ราคาเหรียญ XRP พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจาก Ripple เผยจะเปิดตัว xRapid เดือนหน้า

ธนาคารกลางจีนเตือนเรื่อง Cryptocurrency และความเสี่ยงของ ICO

ชาวปาเลสไตน์ใช้ Bitcoin ในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนท่ามกลางความขัดแย้งในประเทศ

เว็บไซต์กระเป๋าเก็บ Ethereum ออนไลน์ MyCrypto สามารถตั้งเวลาล่วงหน้าในการทำธุรกรรมได้แล้ว

ศาลสหรัฐฯ ได้มีคำตัดสินยึดทรัพย์นาย Cazes อดีตเจ้าของเว็บ AlphaBay ที่ได้ฆ่าตัวตายที่ประเทศไทย

แจ็ค หม่า กล่าว “Blockchan ควรที่จะถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต”

Ripple จะเปิดตัวแพลตฟอร์มการชำระเงิน xRapid สำหรับในเชิงพาณิชย์ในเดือนหน้านี้

LG Uplus เตรียมเปิดตัวบริการด้านการชำระเงินในต่างประเทศบนเทคโนโลยี Blockchain

รายงาน: มีการพบสคริปต์แอบขุดเหรียญบนเว็บไซต์ของรัฐบาลประเทศอินเดีย

Monday, September 17, 2018

SBI ของญี่ปุ่นใกล้เปิดตัวแอปฯ ชำระเงินผ่านเครือข่าย Ripple นาม “MoneyTap”

MasterCard ได้สิทธิบัตรในการบันทึกข้อมูลผ่าน Blockchain เพื่อติดตามธุรกรรมการเงินของลูกค้า

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจและดิจิทัล เตรียมจัดหนึ่งในงาน Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดในไทย

เว็บเทรดคริปโตนาม Bitfinex จะเปิดตัวเว็บเทรดแบบ Decentralized โดยใช้แพลตฟอร์ม EOS ในการสร้าง

หน่วยงานกฎหมายต่างประเทศ ได้ใช้ Blockchain หาตัวตนผู้ต้องสงสัยผ่านการทำธุรกรรมคริปโต

“เราไม่มีแผนที่จะออกสกุลเงินยูโรแบบดิจิทัล” กล่าวโดย หัวหน้าของธนาคารกลางยุโรป

Binance เตรียมเปิดทดลองให้บริการเทรดเงิน Fiat เป็นคริปโตที่สิงคโปร์ในวันที่ 18 กันยายน

ผู้โปรโมท OneCoin กำลังถูกฟ้องข้อหาฟอกเงินจำนวน 400 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ

[รีวิว] MST Crypto โปรแกรมสร้างบอทสำหรับนักเทรดคริปโต ที่ใช้เทคโนโลยี Machine Learning

World Economic Forum เห็นข้อดีของ Blockchain ว่าแก้ปัญหาด้านสิ่งแแวดล้อมได้กว่า 65 เคส

แบบสอบถามจาก Circle ระบุ: จำนวนผู้ชายมากกว่าสองเท่าลงทุนใน Cryptocurrency มากกว่าผู้หญิง

ตำรวจเกาหลีใต้และ FBI รวบนักต้มตุ๋นเหรียญ XRP ระดับนานาชาติ

Friday, September 14, 2018

หนึ่งในงานสัมมนา Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมจัดที่ไทย 26 พฤศจิกายนนี้

ตัวอัพเดต Constantinople ของ Ethereum ใกล้จะมาถึงแล้ว อะไรคือสิ่งที่ควรรู้

CEO ของ Binance แย้ง “อุตสาหกรรมคริปโตมีโอกาสเติบโตมากกว่า 1,000 เท่าอย่างแน่นอน”

CCO ของ BitPay กล่าว “Altcoins จะไม่ฟื้นตัวอีกต่อไป แต่ Bitcoin จะฟื้นตัวกลับมาใน 2019”

นาย Mike Novogratz กล่าว “ราคาของคริปโตได้ไปแตะจุดต่ำสุดแล้ว อาจมีการกลับตัวได้”

Linzhi เตรียมเปิดตัวเครื่องขุด Ethash ที่กินไฟน้อยกว่า Bitmain 8 เท่า และขุดได้มากกว่า

Thursday, September 13, 2018

“Bitcoin คือเหรียญที่ทำธุรกรรมทางการเงินได้ดีที่สุด” กล่าวโดยนาย John McAfee

หน่วยงานการเงินญี่ปุ่นเตรียมขยายทีม เพื่อรองรับเว็บเทรดคริปโตที่จะมาขอใบอนุญาตในอนาคต

เว็บเทรด OKCoin ได้ขยายบริการไปยังอีก 20 รัฐในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นาย Vitalik Buterin ชี้แจงประเด็น “ตลาดคริปโตจะไม่มีโอกาสเติบโต 1,000 เท่าอีกต่อไป”

“ราคา Bitcoin จะคงอยู่ในระดับ 5,000 ดอลลาร์” กล่าวโดยนักเศรษฐศาสตร์ของ Allianz

วิจัยใหม่เผย 66 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ศรัทธาในคริปโต อยากได้รับเงินเดือนในรูปแบบคริปโต

SIX network มุ่งหน้าสู่แพลตฟอร์มแรก ๆ ของโลกที่นำ Blockchain มาใช้ในชีวิตประจำวัน

เว็บเทรด Huobi มีแผนที่จะบริการที่ญี่ปุ่น โดยซื้อเว็บเทรดที่ได้รับใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว

Binance จับมือตลาดหุ้นเกาะมอลตาเปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายโทเคนที่เป็นหลักทรัพย์

Mt.Gox เปิดให้ลูกค้าระดับองค์กรสามารถเคลมชดเชยค่าความเสียหายแบบออนไลน์ได้แล้ว

ราคา  Litecoin ได้ร่วงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ในวันพุธที่ผ่านมา ถือว่าเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 12 เดือน

Blockchain กับท้องถนน ประยุกต์ใช้ด้วยกันได้หรือไม่

Wednesday, September 12, 2018

เทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการซื้อขายหวยในประเทศไทยได้อย่างไร ?

ดิจิทัล เวนเจอร์ส จับมือ เอสซีจี ยกระดับการจัดซื้อจัดจ้างบน R3 บล็อกเชนเป็นครั้งแรกของโลก

ธนาคารในเกาหลีใต้ไม่ให้บริการกับนักเทรดคริปโตที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อจริงในการยืนยันตัว

Nasdaq อาจกำลังวางแผนสร้างเครื่องมือเพื่อวิเคราะห์ และทำนายราคาคริปโต

อนาคตเว็บเทรดคริปโตในอินเดีย กำลังจะถูกตัดสินภายในสัปดาห์นี้

เว็บเทรดคริปโต ยังคงเล็ดลอดการแบนในประเทศจีนได้ด้วยการเปลี่ยนชื่อ Domain

BSP ของฟิลิปปินส์ได้มอบใบอนุญาตให้กับเว็บเทรดคริปโตนาม PDAX เป็นที่เรียบร้อย

Bitcoin มีมูลค่าโดยรวมเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของตลาดคริปโต ขณะที่ Ethereum ร่วงลงต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ส่งคำสั่งไปยังหน่วยงานในอินเดียให้อายัดทรัพย์ผู้โปรโมท Bitconnect

CEO Overstock ขายหุ้นของตัวเอง 10% โดยเขากล่าวว่า “อย่าห่วง ผมยังอยู่ในวงการนี้”

บริษัทสัญชาติจีน กำลังเจรจาเพื่อจะสร้างเหมืองขุดคริปโตที่หน่วยงานความมั่นคงแห่งสหรัฐฯ

สโมรฟุตบอลนาม PSG เตรียมออกเหรียญคริปโตของตัวเอง เพื่อให้แฟนคลับมีส่วนร่วมกับทีม

Tuesday, September 11, 2018

การที่ Citigroup วางแผนสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับ Bitcoin จะส่งอย่างไรต่อตลาดคริปโต?

นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังกล่าว การที่มูลค่าของ Ethereum ลดลงเกิดจาก DApps ต่าง ๆ ที่ไม่ดีพอ

รัฐบาลจีนเล็งใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในการรับบริจาค

“คริปโตยังคงอยู่ แต่มันจำเป็นจะต้องถูกแยกประเภท” กล่าวโดยรองประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป

ผลสำรวจเผย นักลงทุนรายย่อยกว่า 72 เปอร์เซ็นต์ วางแผนที่จะซื้อคริปโตเพิ่มภายในปีนี้

ออสเตรเลียจะทดลองนำข้อมูลใบขับขี่รถยนต์ไปอยู่บนระบบ Blockchain

Breaking News: เจ้าของ OKEx ถูกตำรวจกับกุมตัวแล้ว

สองพี่น้อง Winklevoss เปิดตัว Stablecoin ได้รับอนุมัติจากผู้ออกกฎหมายในนิวยอร์ก

รายงาน: ตลาดแลกเปลี่ยน Bitcoin แบบ P2P นาม LocalBitcoins มี Volume ลดลงเป็นอย่างมาก

WeChat บล็อกบัญชีของ Bitman และบัญชีที่ทำนาย และวิเคราะห์ตลาดคริปโต

รายงาน: ตั้งแต่ปี 2017 เกือบครึ่งของ ICO ล้มเหลวมีเพียง 40% สามารถระดมทุนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์

อดีตที่ปรึกษาด้านกฎหมายคนสำคัญของ Ripple เข้าร่วมสตาร์ทอัพคริปโตใหม่ หลังลาออกไม่กี่วัน

ใครคือ Satoshi Nakamoto และทำไมเขาถึงเลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวตน ?

Monday, September 10, 2018

ทำอย่างไรถึงจะให้คนหันมาใช้คริปโตในชีวิตประจำวันมากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้ายเผย ผู้ก่อการร้ายยังคงเลือกใช้เงินสดมากกว่าคริปโต

IOTA ได้ขยายความร่วมมือทางอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ กับ Volkswagen Bosch และ Fujitsu

หน่วยงานจากเกาหลีใต้ เสนอให้หลายประเทศร่วมมือกัน เพือควบคุมอุตสาหกรรมคริปโตให้เหมาะสม

บริษัทด้านพลังงานไฟฟ้า ENGIE จับมือบริษัทที่ปรึกษา สร้างแพลตฟอร์ม Blockchain เล็งเปิดที่สิงคโปร์

นักเทรดคริปโตในจีนยังคงสามารถเทรดคริปโตได้ด้วย การใช้ USDT และ VPN

Bitcoin ATM ที่มี Malware ติดตั้งอยู่ สามารถหาซื้อได้ในตลาดใต้ดินราคา 25,000 ดอลลาร์

เหรียญคริปโตจะช่วยประเทศที่ประสบภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่

ผู้สร้าง Ethereum กล่าว “จะไม่มีโอกาสอีกแล้วที่อุตสาหกรรมคริปโตจะเติบโต 1,000 เท่า”

GEMERA แพลตฟอร์มที่จะมาปฏิวัติวงการเครื่องประดับระดับ High-end เปิด ICO แล้ว

SEC ประกาศระงับการซื้อขาย ETN นาม Bitcoin Tracker One และ Ethereum Tracker One

กระเป๋าเก็บคริปโตบน Browser Opera อนุญาตให้ผู้ใช้งานส่ง CryptoKitties ให้คนอื่นได้แล้ว

CEO เว็บเทรดคริปโตชื่อดัง Coinbase คาดผู้คนจะหันมาใช้คริปโตมากขึ้นกว่าพันล้านคนในอีก 5 ปี

โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอังกฤษเปิดโปรแกรมบำบัดสำหรับผู้ติดการเทรด Bitcoin

Friday, September 7, 2018

การระดมทุนแบบ ICO มีข้อดี และข้อเสียอย่างไรบ้าง ?

Litecoin คืออะไร และมันแตกต่างกับ Bitcoin อย่างไร ?

คุณสามารถซื้อรถยี่ห้อ Rolls-Royce ด้วยคริปโตได้แล้ว ผ่านผู้ให้บริการชำระเงิน BitPay

IBM ใช้แพลตฟอร์ม Stellar Lumen สร้างระบบ Blockchain ทำธุรกรรมทางการเงิน คล้าย Ripple

รัฐบาลอุซเบกิสถาน ประกาศกฎหมายสนับสนุนด้านภาษี สำหรับเว็บเทรด และนักขุดคริปโตจากต่างประเทศ

Coins.ph เว็บนายหน้าขายคริปโต มีจำนวนผู้ใช้งานมากขึ้นกว่า 4 ล้านคนในปี 2018

ConsenSys จับมือ Coursera เปิดคอร์สสอน Blockchain และ Cryptocurrency ออนไลน์

ประธานาธิบดีของอุซเบกิสถาน เปิดกองทุนด้านคริปโตและ Blockchain เพื่อการฟื้นฟูประเทศ

Coinbase เว็บเทรดคริปโต จับมือ BlackRock ผู้จัดการด้านการลงทุน เล็งอาจจะสร้างคริปโต ETF

วิจัยเผย: 80 เปอร์เซ็นต์ของชาวสหรัฐฯ รู้จัก Bitcoin หนึ่งในสี่ยังเชื่อว่ามันผิดกฏหมาย

CFO ของ Goldman Sachs ชี้แจง “ข่าวยกเลิกแผน Trading Desk สำหรับคริปโต” เป็นข่าวปลอม

ชายชาวนิวยอร์คถูกตัดสินมีความผิด ข้อหาลักพาตัว และขโมย Ethereum มูลค่า 1.8 ล้านดอลลาร์

สองพี่น้องตระกูล Winklevoss ได้รับสิทธิบัตรระบบจัดเก็บ Key บน Cold Storage ในรูปแบบต่าง ๆ

คริปโตในประเทศไทยจะสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

Thursday, September 6, 2018

ก.ล.ต. ไทยเผยรายชื่อผู้ให้บริการเว็บเทรดคริปโตลำดับที่ 8 อนุญาตให้ประกอบการได้ตามบทเฉพาะกาล

เว็บเทรด Coinbase ประกาศจะเริ่มเปิดคู่เทรดสกุลเงินปอนด์วันที่ 7 กันยายนนี้

CEO ของ Twitter ประกาศ เตรียมนำเทคโนโลยี Blockchain มาต่อกรกับบัญชีปลอมที่คอยต้มตุ๋น

Digital Currency Lab ของธนาคารกลางจีน เปิดตัวศูนย์กลางการวิจัยใหม่ เน้นเรื่อง Blockchain

นาย Brian Kelly กล่าว “การระดมทุน ICO ได้ 30 ล้านดอลลาร์ โดยใช้แค่ Whitepaper จะหมดไป”

ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินนาม TransferGo เปิดบริการโอนเงินไปอินเดียโดยใช้เทคโนโลยีจาก Ripple

ราคา Ethereum และ Cardano แตะจุดต่ำที่สุดในรอบปี 2018

ราคา Bitcoin ร่วงหนักลงไปสู่ 6,400 ดอลลาร์ หลัง Goldman Sachs ยกเลิกแผนที่จะเปิด Trading Desk

Goldman Sachs สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ ประกาศยกเลิกแผนให้บริการ Trading Desk สำหรับคริปโต

Wednesday, September 5, 2018

Bittrex นำเหรียญ BTG ออกจากเว็บเทรด หลังเกิดเหตุการณ์ 51% Attack

MEGA Chrome Extension เวอร์ชันใหม่ถูกแฮ็ก ซึ่งมันสามารถขโมย Monero ของผู้ใช้านได้

อิหร่านยอมรับ การขุดคริปโตว่าเป็นอุตสาหกรรมอย่างเป็นทางการ หวังให้เข้ามาช่วยเศรษฐกิจ

Monero ไต่ขึ้นมาอยู่อันดับสิบของใน Coinmarketcap ราคาพุ่งกว่า 45 เปอร์เซ็นต์

ธนาคารใหญ่เป็นอันดับห้าของโลกนาม MUFG กล่าว “Ripple สามารถประหยัดทั้งเวลาและเงิน”

CEO ของ Abra กล่าว “SEC ไม่อนุมัติ Bitcoin ETF เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับผู้ยื่นคำร้อง”

วิจัยเผย ตลาดสำหรับตู้ ATM คริปโตจะเติบโตจนมีมูลค่า 144.5 ล้านดอลลาร์ในปี 2023

แอปฯ กระเป๋าเก็บคริปโตนาม Abra ให้ประชาชนในยุโรปสามารถฝากเงินยูโรเข้ากระเป๋าได้เลย

เกาหลีใต้เตรียมใช้ Blockchain กับภาครัฐในปี 2019 มุ่งเน้นจัดการ Supply Chain ต่าง ๆ

ก.ล.ต. ฟิลิปปินส์ เตรียมออกกฎหมายสำหรับเว็บเทรดคริปโตภายในสัปดาห์หน้า

ราคา Litecoin ทะยานไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 29 วัน ท่ามกลางตลาดกระทิง

แอปฯ เทรดคริปโตชื่อดังนาม Robinhood เพิ่ม Chart แบบ Candlestick เป็นที่เรียบร้อย

ราคา Bitcoin จะกลับไปแตะ 20,000 ดอลลาร์ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญได้หรือไม่

Tuesday, September 4, 2018

การที่ ปปง. ตั้งใจสร้าง Wallet เพื่อต่อต้านการฟอกเงินจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ ?

สตูดิโอสัญชาติรัสเซียได้ออกแบบ Rig สำหรับขุดคริปโตที่เน้นความสวยงาม

เกาหลีใต้เริ่มโครงการฝึกอบรมด้าน Blockchain เพื่อผลิต “ผู้เชี่ยวชาญด้าน Blockchain”

อดีตประธานาธิบดีเอสโตเนีย เซ็นสัญญาเป็นที่ปรึกษาสตาร์ทอัพด้าน Blockchain นาม Lymbo

ตำรวจรัสเซียยึดตู้ Bitcoin ATM 22 ตู้ ชี้มันก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายและความเสียหายทางเศรษฐกิจ

Soluna บริษัทพลังงาน เล็งสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมกลางทะเลทรายสะฮาร่าเพื่อขุด Bitcoin

Alibaba และ IBM ได้รับการจัดอันดับหนึ่งของโลกในการขอสิทธิบัตรด้าน Blockchain

นาย Charlie Shrem แนะนำ “นักลงทุนคริปโตมือใหม่ควรลงทุน และถือไว้อย่างต่ำ 5 ปี”

ธนาคารกลางลาวเตือนประชาชนเรื่องการเทรด Cryptocurrency

ธนาคารกลางของประเทศลาวได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับการเทรดคริปโตและการนำมันมาชำระเงิน

จากประกาศ (PDF) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาธนาคารกลางประเทศลาว (BOL) กล่าวเตือนเรื่องการใช้งาน Cryptocurrency โดยเฉพาะ Bitcoin, Ethereum, และ Litecoin เช่นการเอามาทำการซื้อขาย และยังเรียกร้องให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้าและทำความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินดิจิทัล โดยในประกาศยังเตือนเรื่องการซื้อขายหรือการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลและการลงทุนในคริปโต

อ้างอิงจาก Laotian Times ธนาคารกลางชี้ว่ากฏหมายเกี่ยวกับการชำระเงินในปัจจุบัน (ซึ่งถูกแก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017) ระบุว่าการชำระเงินด้วยคริปโตไม่ได้เป็นมาตรฐานในการชำระเงินและการลงทุน

เจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคารกลางกล่าวว่า:

“มันไม่ใช่สกุลเงินที่มีอยู่เช่นเงินกีบหรือเงินบาทไทย เพราะมันไม่สามารถชำระหนี้ได้ มันถูกบันทึกการทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัล ยังไม่ได้มีการบังคับใช้ด้วยกฏหมาย คนที่มีส่วนในการใช้ Cryptocurrency อาจเกิดความเสี่ยงได้หากระบบดิจิทัลล้มเหลว”

ล่าสุดโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยนาม Major Cineplex เริ่มยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโตแล้ว โดยทาง Major Cineplex จะใช้เครื่องมือ point of sale ของ Rapiz เพื่อรับเหรียญคริปโตเป็นช่องทางการชำระเงินได้นั่นเอง

The post ธนาคารกลางลาวเตือนประชาชนเรื่องการเทรด Cryptocurrency appeared first on Siam Blockchain.

ICBC ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน กล่าว “จะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain”

อ้างอิงจาก รายงานโดย BiaNews เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ประธานของธนาคารเพื่ออุตสาหกรรมและพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ICBC) กล่าวว่าธนาคารจะเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี Blockchain

ICBC ถูกก่อตั้งในปี 1984 และเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เนื่องจากมีลูกค้ากว่า 5,000 องค์กร และลูกค้าทั่วไปกว่า 530 ล้านราย  ในปี 2017 ธนาคารจะโฟกัสไปที่ “การสร้างธนาคารอัจฉริยะ” และ “เร่งการใช้งานในด้านเทคโนโลยีทางการเงิน”

มีการรายงานว่า นาย Yi Huiman ประธานของ ICBC กล่าวว่า ธนาคารจะโฟกัสไปยังนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น Cloud Computing, Big Data, AI, Blockchain และ Internet of Things

อ้างอิงจาก BiaNews ธนาคารจะพยายามหาวิธีใช้งานนวัตกรรมใหม่ ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยปรับปรุงบริการต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมทางการเงิน และเสริมสร้างความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินที่แชร์ให้กับบุคคลที่สาม

ถึงแม้ประเทศจีนจะประกาศจุดยืนออกมาแล้วว่า พวกเขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับคริปโตเท่าไรนัก หลังจากที่ได้ประกาศใช้กฎหมายที่ปราบปรามการเทรดคริปโต รวมทั้งการระดมทุน ICO ไปในปลายปี 2017 แต่ประเทศจีนยังคงไม่หยุดยั้งที่จะใช้เทคโนโลยี Blockchain และได้รับประโยชน์จากมัน ซึ่งพวกเขายังคงพัฒนาเทคโนโลยี และนำ Blockchain ไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้เปิดตัวเทคโนโลยีของพวกเขา และกล่าวว่ามันจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ซึ่งทาง CPC รายงานว่า พวกเขามีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ของรัฐในการทำความเข้าใจแนวคิดของเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท (DLT) และพิจารณาถึงประโยชน์และความท้าทายในการนำ Blockchain ไปใช้ในระดับชาติ

The post ICBC ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน กล่าว “จะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain” appeared first on Siam Blockchain.

ประเทศญี่ปุ่นทดลองใช้ Blockchain ในการลงเสียงโครงการพัฒนาท้องถิ่นได้

รัฐบาลของญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศหนึ่งที่จะร่วมทดสอบระบบ Blockchain ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถลงมติในการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการพัฒนาท้องถิ่นได้

อ้างอิงจากข่าวของ Japan News รัฐบาลเมือง Tsukuba ซึ่งเป็นเมืองที่มีบทบาทในการพัฒนาทางวิทยาศาตร์ตั้งแต่ปี 1960 ได้เสร็จสิ้นการทดลองระบบ Blockchain ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม โดยมีคะแนนเสียงถึง 119 เสียง

อ้างอิงจากเว็บไซต์รัฐบาล กล่าวว่า เทคโนโลยี Blockchain นี้จะถูกนำมาใช้กับการเลือกเลือกโครงการที่จะมาพัฒนาสังคม โดยจะเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีรวมไปถึง IoT หรือ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มาใช้ในการพัฒนา

ในรายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า ระบบนี้จะรวมไปถึงระบบที่จะตรวจสอบแต่ละบุคคลแบบ Decentralized หลังจากหย่อนบัตรประชาชนลงไปในเครื่อง ตัวเครื่องก็จะตรวจสอบและยืนยันผู้ที่มีสิทธิ์ในการลงคะแนน โดยระบบนี้จะทำการบันทึกข้อมูลและป้องกันการปลอมแปลงด้วยนั่นเอง

รายงานจาก Jiji เมื่อวันเสาร์ระบุว่า หากการยื่นขอนี้สำเร็จลุล่วงจากทางรัฐบาล ก็มีโอกาสขยายบริการนี้ไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขา และผู้ที่อยู่ห่างไกลและต่างประเทศ

การทดสอบนี้เป็นตัวอย่างล่าสุดที่ทางรัฐบาลจะได้เปิดใช้เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทสำหรับการลงคะแนน

The post ประเทศญี่ปุ่นทดลองใช้ Blockchain ในการลงเสียงโครงการพัฒนาท้องถิ่นได้ appeared first on Siam Blockchain.

ปปง. อาจสร้าง Wallet ต่อต้านการฟอกเงิน และจะใช้อายัดทรัพย์คริปโตถ้าพัวพันสิ่งผิดกฎหมาย

อ้างอิงจากสำนักข่าว The Nation รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแห่งประเทศไทย (ปปง.) กำลังพิจารณาที่จะสร้างกระเป๋าเก็บเงินดิจิทัลของพวกเขาเอง เพื่อที่จะทำการตรวจสอบพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการโจรกรรมทางคริปโต

อ้างอิงจากนาย วิทยา นีติธรรม เลขาธิการปปง. ผู้ออกกฎหมายต้องการที่จะปรับตัวตามเทคโนโลยีที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาใหม่นี้ เพื่อที่รัฐบาลจะสามารถยึดหลักทรัพย์ที่เป็นคริปโตได้ หากมีความเกี่ยวข้องการฉ้อโกง

“เราได้หารือกันแล้วว่า อาจจะมีการสร้าง “AMLO Wallet (กระเป๋าเก็บคริปโตต่อต้านการฟอกเงิน) เพื่อที่เราจะสามารถยึดหลักทรัพย์คริปโตที่ได้มาโดยผิดกฎหมายได้”

ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่ของไทยสามารถจับกุมหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดนผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีอาชญากรรมทางอาญาหรือยึดทรัพย์สินทางกายภาพของพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงกระเป๋าเก็บเงินดิจิทัลที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมได้

แม้จะมีมาตรการใหม่ ๆ ออกมา แต่ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะติดตามผู้ใช้ Cryptocurrency ที่ทำงานนอกระบบการออกใบอนุญาตในปัจจุบัน

“เราไม่สามารถระบุตัวผู้ส่ง Cryptocurrency หรือรับได้ เมื่อผู้ที่ถูกหลอกส่งเงินให้กับอาชญากร” นายวิทยา กล่าว

สำนักข่าวดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ศาลไทยไม่น่าจะยอมรับหลักฐานในการทำธุรกรรมด้วยคริปโต เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะระบุตัวตน

The post ปปง. อาจสร้าง Wallet ต่อต้านการฟอกเงิน และจะใช้อายัดทรัพย์คริปโตถ้าพัวพันสิ่งผิดกฎหมาย appeared first on Siam Blockchain.

Monday, September 3, 2018

Satis Group ทำนายมูลค่าตลาดคริปโตจะไปแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021

Satis Group บริษัทให้คำแนะนำโปรเจกต์ ICO ได้ทำนายว่ามูลค่าทั้งหมดของตลาดคริปโตจะพุ่งไปแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021 และแตะ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2028

อ้างอิงจากรายงานที่ถูกจัดทำโดย Satis Group 90 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าคริปโตในปัจจุบันจะเพิ่มขึ้น จากเงินทุนที่ไหลเข้ามาจากนอกวงการในอีกสิบปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้มูลค่าโดยรวมของตลาดคริปโตที่ปัจจุบันอยู่ที่ 236 พันล้านดอลลาร์ ไปแตะ 3.57 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2028

นอกจากนี้ พวกเขายังทำนายด้วยว่า มูลค่าตลาดคริปโตจะไปแตะ 509 พันล้านในปีหน้า และ 1 ล้านล้านในปี 2021 พร้อมทั้งยังคาดเดาด้วยว่า ราคาของ Bitcoin จะไปอยู่ที่ 32,914 ดอลลาร์ในปีหน้า, 96,378 ดอลลาร์ใน 5 ปีหน้า และ 143,900 ในปี 2028

Satis Group ได้เน้นว่า หนึ่งในสิ่งที่อุตสาหกรรมคริปโตทำได้ดีที่สุดคือเรื่องของความเป็นส่วนตัว เนื่องจากสามารถใช้งานได้จริง เห็นได้จากกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ ที่เริ่มบังคับใช้มากขึ้นเพื่อที่จะต่อกรกับเรื่องดังกล่าว

อ้างอิงจากรายงาน ยังได้มีทำนายว่าราคาของคริปโตแต่ละสกุลนั้นจะมีมูลค่าเท่าไร ในอีก 5 ปีข้างหน้า และระบุว่าเหรียญ เช่น Bitcoin, Monero และ Decred จะมีการทะยานของราคา เนื่องจากพวกมันเป็น “คริปโตที่มีคุณค่าที่เฉพาะตัว ซึ่งส่งผลต่อตลาดคริปโต”

ในทางกลับกัน นักวิจัยได้เชื่อว่าเหรียญเช่น Bitcoin Cash และคริปโตตัวอื่น ๆ ที่ “พยายามจะเคลมว่าเป็นคริปโตที่จะมาแทนที่คริปโตสกุลหลัก ๆ โดยการเคลมว่ามีเทคโนโลยีที่ดีกว่า” จะมีมูลค่าที่ลดลง และเหรียญ XRP ได้รับคำทำนายที่รุนแรงที่สุด โดย Satis Group กล่าวว่ามันจะมีราคาเหลือเพียง 0.01 ดอลลาร์

The post Satis Group ทำนายมูลค่าตลาดคริปโตจะไปแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021 appeared first on Siam Blockchain.

วิจัยแย้ง การขุด Bitcoin อาจส่งผลกระทบแง่บวก และอาจส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงาน

เป็นเรื่องปกติที่หลาย ๆ คนในวงการคริปโตทราบดีอยู่แล้วว่า การขุด Bitcoin นั้นมีผลกระทบต่อสิ่งรอบข้างในแง่ลบหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง หรือมลภาวะทั้งด้านเสียง และความร้อนที่มันปล่อยออกมา แต่มีงานวิจัยชิ้นใหม่แย้งความเห็นตรงข้ามในหัวข้อ “ทำไมการขุด Bitcoin ถึงส่งผลกระทบในแง่บวก ?”

งานวิจัยดังกล่าวถูกจัดทำโดย Node Blockchain มันได้ระบุเหตุผลไว้หลายประการว่าทำไม การขุด Bitcoin ถึงไม่ได้แย่ และจริง ๆ แล้วมันส่งผลกระทบในแง่บวก (Positive Externalities) ด้วยซ้ำไป

ประการแรก เมื่อฮาร์ดแวร์สำหรับขุด Bitcoin ถูกพัฒนาไปจนถึงจุด Diminishing Returns (ใช้ทรัพยากรมากขึ้น แต่ได้ผลลัพธ์ที่ลดลงเรื่อย ๆ ) นักขุดจำเป็นต้องหาแหล่งพลังงานที่ถูกลงไปอีก กลายเป็นว่าวงการขุด Bitcoin จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันตลาดพลังงานให้ขับเคลื่อนไปมากขึ้น จะมีการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น และพลังงานแบบเก่า ๆ น้อยลง ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อคนทั้งโลก

นอกจากที่นักขุดจะเริ่มหันไปใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น มันยังสร้าง Demand ให้กับนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เห็นโอกาส และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อนำพลังงานมารีไซเคิลใช้ใหม่อีกครั้งด้วย ยกตัวอย่างเช่น มีโครงการหนึ่งที่นำแก๊สธรรมชาติจากบ่อน้ำมันที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเผามาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า และนำไปขุดคริปโต เป็นต้น

ได้มีการวิจัยโดยนาย Saad Imran ได้ยกประเด็นเปรียบเทียบว่า:

“มันเป็นสิ่งสำคัญที่เปรียบเทียบการใช้ไฟฟ้าของการขุด Bitcoin กับอุตสาหกรรมที่ใกล้เคียง เช่น ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลก (Data Centers) ซึ่งกินพลังงานไฟฟ้าประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของทั้งโลก (มากกว่าที่การขุด Bitcoin ใช้ 133 เท่า) ทำไมการใช้ไฟฟ้าของ Bitcoin จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่การใช้ของศูนย์ข้อมูลพวกนั้นจึงใช้ได้อย่างปกติ ?”

ที่มาภาพ BitNovosti English

The post วิจัยแย้ง การขุด Bitcoin อาจส่งผลกระทบแง่บวก และอาจส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงาน appeared first on Siam Blockchain.

เมื่อระบบ Online Banking ล่ม เทคโนโลยี Blockchain จะช่วยแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

สิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานับว่าเป็นช่วงเวลาที่หลายๆ คนเฝ้ารอคอยบางคนรอเงินเดือนออกเพื่อไปจัดการปัญหาค่าใช้จ่าย ชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต หรือ หลายคนรอย้ายเงินจากบัญชีหนึ่งไปอีกบัญชีหนึ่ง และแน่นอนว่าวิธีการย้ายเงินหรือจ่ายเงินค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ของคนรุ่นใหม่ วิธีการที่ง่ายและสะดวกมากที่สุดคงหนี้ไม่พ้น การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโมบาย แบงก์กิ้ง

ทว่าปัญหาหลักๆ ที่พบแน่นอนว่า ระบบโมบาย แบงก์กิ้งล่ม ตั้งแต่ช่วงเช้าและไม่ได้ล่มเพียงแค่ธนาคารใดธนาคารหนึ่งเท่านั้น

โมบายแบงก์กิ้งล่ม กระทบผู้ใช้งาน

มีรายงานข่าวตามโลกออนไลน์และสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่รายงานว่า ระบบให้บริการธุรกรรมทางการเงินของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเกิดขัดข้อง ส่งผลกระทบต่อการใช้บริการของลูกค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งธนาคารที่ขัดข้อง ประกอบไปด้วย ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ,ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และ ธนาคารธนชาต (TBANK)

อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ระบุว่า มีธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง เร่งแก้ไขปัญหาระบบให้บริการทางการเงินที่ขัดข้องในช่วงวันที่ 31 ส.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมการเงินของลูกค้าทั่วประเทศ

แบงก์ชาติสั่งธนาคารดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ

ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ชี้แจงถึงสาเหตุดังกล่าวว่า มีธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่มีปริมาณธุรกรรมข้ามธนาคารจำนวนมากเกิดปัญหาระบบขัดข้องทำให้เกิดรายการค้างรอจำนวนมาก และทำให้ส่งผลกระทบไปสู่ธนาคารหลายแห่ง อีกทั้งยังทำให้เกิดการสะดุดหรือล่าช้าในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะบริการ โมบาย แบงก์กิ้ง

ซึ่งทางธปท.ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและให้ธนาคารเร่งแก้ไข พร้อมกำชับให้ธนาคารดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกราย อาทิ กรณีรายการโอนเงินไม่สมบูรณ์หรือไม่ได้รับเงินทันที อีกทั้งยังได้สั่งการธนาคารที่มีปัญหาให้มีแผนยกระดับศักยภาพความสามารถในการให้บริการ เพื่อรองรับธุรกรรมที่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

ขณะเดียวกันทางสมาคมธนาคารไทยชี้แจ้งว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งในวันที่เกิดเหตุการณ์ธนาคารส่วนใหญ่พยายามทยอยแก้ไขเหตุขัดข้องดังกล่าว ก่อนที่ระบบจะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

คำถามที่ไม่มีใครสามารถตอบได้ก็คือ เราจะเจอปัญหาในลักษณะแบบนี้ในอนาคตอีกหรือไม่

ปัญหาที่แบงก์แก้ไม่ได้

ระบบแบงก์ล่มนับเป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบต่อผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ถ้ามองย้อนกลับไปราวๆ 1 ปี สถาบันการเงินพยายามที่จะผลักดันให้ผู้ใช้บริการหันมาใช้งานและทำธุรกรรมผ่านโมบาย แบงก์กิ้ง ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในกระบวนการเพื่อลดต้นทุนของธนาคาร อาทิ เรื่องบุคลากรหน้าสาขา ที่ตั้งสาขา เป็นต้น เพราะก่อนหน้านี้เราอาจเคยได้ยินข่าวกรณีธนาคารหลายแห่งปิดสาขาเพราะพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป และหันมาใช้งานด้านโมบาย แบงก์กิ้งมากขึ้น

แม้ว่าประเทศไทยพยายามที่จะผลักดันเรื่อง Cashless society ให้พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัดหรือร้านค้าในห้างใช้ QR Code ในการรับชำระเงิน แต่หากในอนาคตเหตุการณ์ระบบแบงก์ล่มเกิดขึ้นอีก อาจจะทำให้พ่อค้า แม่ค้า รวมถึงลูกค้าที่กำลังใช้บริการดังกล่าวไม่สามารถชำระเงินได้ ซึ่งในมุมกลับกันถ้าถามว่าเงินสดยังเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์อยู่ ก็คงต้องย้อนกลับมาดูที่คำถามว่า “แล้วสถาบันการเงินจะออกบริการ ผลักดันการใช้โมบายแบงก์กิ้ง และสร้างสังคมไร้เงินสด (Cashless society) ไปทำไม”

จ่ายเงินด้วย Cryptocurrency

แม้ว่าในปัจจุบันการชำระเงินด้วย Cryptocurrency จะยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายมากนักในประเทศไทย แต่ในช่วงที่ผ่านมาน่าจะเคยเห็นข่าวกรณีที่ร้านค้าดัง ๆ หลายร้านของต่างประเทศพยายามนำ Cryptocurrency เข้ามาเป็นอีกช่องทางในการรับชำระเงิน อาทิ Samsung ที่รัฐบอลติกยอมรับการชำระเงินด้วย Cryptocurrency , KFC ในประเทศแคนาดารับชำระเงินด้วย Bitcoin ในการซื้อไก่ทอด, McDonalds เปิดตัวเหรียญคริปโต “MacCoin” ที่ใช้ซื้อ BigMac หรือแม้แต่ในประเทศไทยเองโรงหนังดังอย่าง Major Cineplex ก็เตรียมรับเหรียญ Cryptocurrency

จะเห็นได้ร้านค้าส่วนใหญ่ที่เปิดรับ Cryptocurrency นั้นเป็นร้านค้าที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมากทั้งจากทั่วโลกและในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นร้านค้าที่มีผลการดำเนินงานในแง่ของผลประกอบการที่ดี ซึ่งแน่นอนว่า การเปิดใจยอมรับที่จะใช้ Cryptocurrency ในการรับชำระเงินนั้นน่าจะด้วยเหตุผลในเรื่องของการทำธุรกรรมที่สามารถเข้าถึง ตรวจสอบได้ และน่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายต่อการทำบัญชี

ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง ในการผลักดันโปรเจกต์อินทนนท์  โดยโครงการดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อทดสอบการนำเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology: DLT) มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินไทย ด้วยการทดสอบการโอนเงินระหว่างกันโดยใช้เงินดิจิทัล โดยการทดสอบดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นต้นแบบในการใช้งานของ Cryptocurrency ในประเทศไทยโดยสถาบันการเงินที่ในอนาคตอาจจะถูกใช้งานในรูปแบบของ B2B หรือ B2C ก็เป็นไปได้

โอกาส Blockchain ล่ม

Cryptocurrency เป็นสิ่งที่เราทราบกันดีว่ามีเทคโนโลยี Blockchain เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นั้นเท่ากับว่า เทคโนโลยี Blockchain ข้อดีของมันอย่างแรกคือข้อมูลที่คงอยู่ถาวรสามารถตรวจสอบได้ อย่างที่สองคือ ไม่มีใครแก้ไขได้ และท้ายสุดคือมันเป็นสาธารณะ ผู้คนสามารถตรวจสอบได้

คำถาม ระบบ Blockchain มั่นคงแค่ไหน คงต้องตอบว่า ที่ผ่านมายังไม่มีข่าวที่ระบุว่า เทคโนโลยีตัวนี้ล่ม หรือ ถูกแฮกเกอร์เจาะระบบเข้ามาทำลาย เพื่อขโมยข้อมูล แต่ในทางกลับกันถ้าเราเคยได้ยินข่าวกรณีที่เว็บเทรดถูกแฮ็ก ต้องบอกว่าสิ่งนั้นคือการกระทำของแฮกเกอร์ที่แฮ็กเข้าในระบบเว็บเทรดที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ใช่ตัวเทคโนโลยี

เทคโนโลยี Blockchain จะถูกแฮ็ก หรือ เปลี่ยนแปลงข้อมูลได้หรือไม่ คงต้องตอบว่า การทำงานของ Blockchain มีทั้งแบบ Public และ Private ซึ่งแต่ละอันจะเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดย Public Blockchain เปรียบเสมือนสถานที่ที่รวบรวมข้อมูลซึ่งใครก็สามารถเข้าถึงตอนไหนก็ได้ ปัจจุบันมี Cryptocurrency บางตัวที่ใช้ Public Blockchain อย่าง Bitcoin ซึ่งหมายความในการทำธุรกรรมต่างๆ บน Bitcoin ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าถึง

ส่วน Private Blockchain ชื่อตรงตัวว่ามีความเป็นส่วนตัว ผู้ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลบน Private Blockchain จะต้องได้รับอนุญาตหรือถูกเชิญเข้ามาใช้งานเท่านั้น เช่น สถาบันการเงินต้องการสร้าง Private Blockchain เพื่อทำโปรเจกต์ใหม่ โดยให้คนในองค์กรเท่านั้นรับรู้ถึงข้อมูล และกระบวนการต่างๆ ก็จะต้องเชิญทุกคนที่ทำงานในองค์กรและมีส่วนร่วมเข้ามา ซึ่งทุก ๆ คนก็คงทราบกันอย่างดีแล้วว่าธนาคารที่มีความเป็น centralized สูงนั้นคงจะต้องเลือกใช้ Blockchain แบบ private แน่นอน

Blockchain จะช่วยแบงก์ได้อย่างไร

เทคโนโลยี Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่ทำลายตัวกลาง เพราะฉะนั้นถ้าธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยดึงเทคโนยีตัวนี้เข้ามาใช้เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ อาจจะทำให้แบงก์ต้องสูญเสียรายจากการเก็บค่าธรรมเนียมไป แต่ก็สามารถทดแทนด้วยการลดบุคลากรลงหรือต้นทุนลงได้ แต่ในทางกลับกันถ้าแบงก์ไม่พยายามปรับตัวหรือนำเทคโนโลยีตัวนี้เข้ามาใช้ก็อาจจะทำให้ในอนาคตถูก disrupt จากเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างโดยผู้ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีมาทำลาย

หากแบงก์นำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ มันจะช่วยตรวจสอบการทำธุรกรรมต่างๆ ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน ฝากเงิน ถอนเงิน หรือจ่ายค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นการช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ เช่น การทำเอกสาร การกรอกจำนวนเงินฝากผิด เป็นต้น ซึ่งหากอธิบายง่าย ๆ ก็คือเป็นการลดจำนวนของบุคลากรลงนั่นเอง

ก่อนหน้านี้ทางธนาคารพาณิชย์หลายๆ แห่งก็ได้เร่งศึกษาเทคโนโลยีของเหรียญ Cryptocurrency บางตัวเพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมของธนาคาร ซึ่งบางธนาคารก็ได้มีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้บ้างแล้ว อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ที่เปิดให้บริการระบบโอนเงินด้วย Ripple ระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่นำนวัตกรรม Krungsri Blockchain Interledger มาใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศสำหรับภาคธุรกิจไทย รวมถึง ธนาคารกรุงเทพที่เข้าร่วมกลุ่ม R3 Consortium เพื่อนำ Blockchain มาใช้ในบริการของธนาคาร

นั้นเป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่าธนาคารบางแห่งก็มองเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี Blockchain กับการทำธุรกรรมทางการเงิน

โอกาสการใช้ Cryptocurrency ในไทยยังห่างไกล

ทางสยามบล็อกเชนได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในรายการ Live ทาง Youtube Siamblockchain ประเด็นเรื่องความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะใช้ Cryptocurrency ในการใช้จ่าย โดยคุณธนาธร ระบุว่า อนาคตอันใกล้ยังไม่มี และยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังวิกฤตปี 2540 อย่างเบี้ยกุดชุมที่เกิดขึ้นในจังหวัดยโสธร ซึ่งในตอนนั้นภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี เป็นเหตุให้ชาวบ้านสร้างเบี้ยที่ชื่อว่า เบี้ยกุดชุม เพื่อใช้แลกเปลี่ยนสินค้าภายในหมู่บ้าน อำเภอ ชุมชน เพื่อให้เงินหมุนเวียนกันเองในชุมชนไม่ไหลออกไปข้างนอก และเป็นการกำจัดปัญหาเงินเฟ้อ แต่เมื่อเรื่องดังกล่าวถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ทางธปท.และกระทรวงการคลังก็ออกกฎมาว่าเบี้ยกุดชุมผิดกฎหมาย ซึ่งหากเทียบแล้วเบี้ยกุดชุมในตอนนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรกับ bitcoin ในปัจจุบัน กลไกการแลกเปลี่ยนมีลักษณะที่คล้ายกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือ bitcoin เป็นสิ่งที่ใช้กันทั่วโลกจับต้องไม่ได้ แต่ เบี้ยกุดชุมใช้ในชุมชนแห่งหนึ่งและจับต้องได้

“เบี้ยกุดชุมที่ใช้ในอำเภอในจังหวัดยโสธร ยังไม่ให้ใช้เลย คือ มันเป็นความกลัว ความ conservative การไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าของสังคมไทย”

สรุป

ปัญหาระบบ Online Banking ล่มของไทยอาจเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ควรที่จะมีวิธีป้องกันและจัดการไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก เพราะปัญหาดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับธนาคารผู้ให้บริการ แต่นั้นหมายถึงรายได้ของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือร้านค้าส่วนใหญ่ที่รับชำระเงินด้วย QR Code ก็เป็นได้

ทั้งนี้การนำเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลังบ้านของ Cryptocurrency หลายๆ ตัวมาใช้ในระบบการเงินของไทย อาจจะเป็นการแก้ปัญหาอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยได้ แต่ก็มีคำถามที่ว่า การใช้เทคโนโลยี  Blockchain เป็นการตัดตัวกลางออก ซึ่งอาจจะมีหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบและไม่ยอมก็เป็นได้

ภาพจาก Theindianexpress

The post เมื่อระบบ Online Banking ล่ม เทคโนโลยี Blockchain จะช่วยแก้ไขได้อย่างไรบ้าง appeared first on Siam Blockchain.

นักพัฒนา Ethereum ประชุมและสรุปว่าจะเลื่อน “Difficulty Bomb” ไปอีก 12 เดือน

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา นักพัฒนาหลักของ Ethereum ได้ทำการประชุมผ่าน Youtube และได้ตกลงที่จะยืดระยะเวลา หรือดีเลย์ “Difficulty Bomb” โดยตกลงว่าจะนำโค้ดดังกล่าวไปอยู่ใน Constatinople Hard Fork แทน

หนึ่งในจุดประสงค์หลักของ Ethereum Foundation คือการเริ่มใช้ระบบ Proof-of-Stake หรือ PoS ในการที่จะนำระบบดังกล่าวมาใช้นั้น นักพัฒนาจำเป็นต้องใช้ “Difficulty Bomb” ซึ่งจะส่งผลให้ Block ถูกขุดยากขึ้น Constantinople ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การเปลี่ยนแปลงจากระบบ Proof-of-Work เป็น Proof-of-Stake อย่างราบรื่น

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักพัฒนาได้เสนอทางเลือก 3 ทางสำหรับ “Difficulty Bomb” ซึ่งจะส่งผลกระทบกับรางวัลต่อ Block ที่นักขุดได้ โดยทางเลือกแรกคือ EIP-585 ที่จะลดรางวัลต่อ Block ให้เหลือ 1 ETH ต่อ Block, EIP-1234 ที่จะลดรางวัลต่อ Block ให้เหลือ 2 ETH ต่อ Block และ EIP-1295 ที่จะลดรางวัลต่อ Block ให้เหลือ 3 ETH ต่อ Block

อ้างอิงจากโพสต์บน Github นักพัฒนาตัดสินใจที่จะยอมรับ EIP-1234 ซึ่ง Difficulty Bomb ดังกล่าวถูกยืดไปอีก 12 เดือน ก่อนที่โค้ดจะถูกนำมาใช้จริงใน Constantinople Fork

ในขณะที่รายงานอยู่นี้ อ้างอิงจาก Coinmarkcap ราคาของ Ethereum อยู่ที่ 289 ดอลลาร์ โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคา 2.32 เปอร์เซ็นต์ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ CBOE ได้ประกาศว่าพวกเขาจะเปิดตลาด Ethereum Futures ภายในปี 2018 นี้อีกด้วย

ที่มาภาพ CoinDesk

The post นักพัฒนา Ethereum ประชุมและสรุปว่าจะเลื่อน “Difficulty Bomb” ไปอีก 12 เดือน appeared first on Siam Blockchain.

นาย Tom Lee ยังเชื่อ Bitcoin จะไปยืนเหนือ 20,000 ดอลลาร์ปลายปีนี้ หากเงินดอลลาร์อ่อนตัว

นาย Tom Lee ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Fundstrat และหนึ่งในนักทำนายราคา Bitcoin ที่มีชื่อเสียง กล่าวว่า ราคาของ Bitcoin อาจไปแตะจุดสูงกว่า 20,000 ดอลลาร์

ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ CNBC นาย Lee ได้กล่าวว่าราคาของ Bitcoin มีทิศทางการเคลื่อนที่ของราคาคล้ายตลาดที่เพิ่งถือกำเนิดใหม่ (Emerging Markets)

“ตลาดทั้งสองขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และต่อจากนั้นทั้งสองตลาดได้กลายเป็นขาลง”

การกลับตัวของ Emerging Market จะทำให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น ?

นาย Lee ได้ชี้ให้เห็นว่า การเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ และ ETF ของตลาด Emerging Market อาจทำให้ราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นได้

ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และตุรกี, อิหร่าน, จีน และประเทศอื่น ๆ อาจทำให้มูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลง โดยเฉพาะหลังจากที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกนโยบายลดดอกเบี้ยลง ซึ่งเหตุเหล่านี้อาจส่งให้ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นได้เช่นกัน โดยนาย Lee อธิบายว่า:

“เหตุผลหลัก ๆ สองประการที่เราคิดว่ามันมีความเชื่อมโยงกัน อันดับแรก กองทุน หรือ Hedge Funds ต่าง ๆ ลงทุนใน Emerging Market เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และพวกเขาทำการ Risk-on และ Risk-off เมื่อพวกเขา ทำการ Risk-off Bitcoin จะมีมูลค่าที่ลดลง อันดับที่สองคือ Wealth Effect เมื่อคุณอยู่ใน Emerging Market และเห็นราคาหุ้นในตลาดร่วงลงอย่างหนัก คุณจะมีเงินไปซื้อ Bitcoin น้อยลง”

สำหรับผู้ที่ไม่ทราบอ้างอิงจาก Forexthai Risk on คือ เมื่อความเสี่ยงต่ำ หรือภาวะตลาดในช่วงนั้นค่อนข้างมั่นคง นักลงทุนก็จะรับความเสี่ยงได้มาก และมักจะลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น เป็นต้น

Risk off  คือ ในช่วงความเสี่ยงสูง หรือภาวะตลาดไม่มั่นคง มีความผันผวนสูง นักลงทุนก็จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ความเสี่ยงน้อยๆ เช่น ถือเงินสด , พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น

20,000 ดอลลาร์ ภายในปี 2018

ถึงแม้ปัจจุบัน ETF ของ Emerging Market จะดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่นาย Lee ก็คาดว่า ราคาของ Bitcoin จะไปอยู่เหนือ 20,000 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปี 2018 โดยคาดหวังว่าจะมีการพุ่งขึ้นของราคาคล้ายช่วงเดือนธันวาคม 2017

หากตลาด Emerging Market สามารถเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงสิ้นปี และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลง นาย Lee เชื่อว่าจะทำให้ราคาทะยานเช่นปลายปี 2017 ที่ผ่านมา

ที่มา ccn

ที่มาภาพ Business Insider Nordic

The post นาย Tom Lee ยังเชื่อ Bitcoin จะไปยืนเหนือ 20,000 ดอลลาร์ปลายปีนี้ หากเงินดอลลาร์อ่อนตัว appeared first on Siam Blockchain.

ราคา Dogecoin ลดลงกว่า 35 เปอร์เซ็นต์จากราคาสูงสุดตั้งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ราคา Dogecoin ลดลงกว่า 35 เปอร์เซ็นต์จากราคาสูงสุดตั้งเดือนมีนาคมปี 2018 โดยเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ราคา Dogecoin ได้ปรับลงมาที่ 0.00692 ดอลลาร์หลังจากเมื่อสองวันที่แล้วนั้นราคาของมันได้พุ่งสูงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

เมื่อวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา Dogecoin สามารถทำกำไรได้อย่างมากหลังจากประกาศจะย้ายไปใช้บนเครือข่าย Ethereum แต่อย่างไรก็ตามราคาของ Dogecoin ก็กลับตกลงมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับเหรียญ IOTA ที่ก่อนหน้านี้มีราคาสูงขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์หลังจากที่ได้รวม Fujitsu มาเป็นมาตรฐาน Protocol ตัวใหม่

ในขณะเดียวกันการที่ราคา Dogecoin ดีดขึ้นจาก 0.00512 ดอลลาร์ อาจทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่ราคา Dogecoin จะอยู่ในระดับแนวต้านที่ 0.00620 ดอลลาร์ ซึ่งเหมาะแก่การเข้าซื้อ (Long Position) และถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นนั้น จะทำให้ราคา Dogecoin กลับไปส่จุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ 0.00838 ดอลลาร์ก็เป็นได้

ก่อนหน้านี้ราคา Bitcoin ได้พุ่งสูงถึง 7,200 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบเดือน นอกจากนี้ค่า BTC Dominance ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน โดยขึ้นไปแตะจุดสูสุดที่ 54.51% ก่อนที่จะคงตัวอยู่ที่ 52.2%

The post ราคา Dogecoin ลดลงกว่า 35 เปอร์เซ็นต์จากราคาสูงสุดตั้งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา appeared first on Siam Blockchain.

ประเทศเกาหลีใต้กำลังจะออกเหรียญคริปโตของตัวเอง นาม Gyeongbuk Coin

Gyeongsangbuk หนึ่งจังหวัดในประเทศเกาหลีใต้กำลังจะทดลองใช้เหรียญคริปโตของตัวเองเพื่อนำมาใช้ในจังหวัด โดยเหรียญดังกล่าวนั้นจะนำมาใช้แทนบัตรของขวัญ หรือ Gift Cards เพื่อซื้อสินค้าในร้านค้าทั่วจังหวัด

Gyeongbuk Coin

รายงานจาก Joongang Daily เหรียญที่ว่านี้จะมีชื่อว่า Gyeongbuk Coin โดยจะมาแทนบัตรของขวัญ (gift cards) สำหรับซื้อสินค้าในร้านค้าทั่วจังหวัด ซึ่งรวมไปถึงเมือง Daegu ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ โดยเหรียญนี้สามารถซื้อผ่านเว็บเทรดได้โดยตรง

จังหวัด Gyeongsangbuk จะออก Gyeongbuk Coin เป็นมูลค่า 100,000 ล้านวอน (100 ล้านเหรียญ) ในทุก ๆ ปี ซึ่งจะออกในวันที่เรียกว่า “Hometown Love Gift Cards”

นาย Sunghyun Chung หัวหน้าฝ่ายนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมือง Gyeongsangbuk กล่าว:

“ยังคงมีปัญหาอีกมากมายที่จะต้องได้รับการแก้ไข โดยจะทำการแจ้งให้พ่อค้าได้ทราบถึงวิธีการใช้เหรียญ และการสร้างเหรียญ อย่างไรก็ตาม Cryptocurrency จะเป็นเทคโนโลยีหลักที่ได้รับการยอมรับ”

เมือง Zug เป็นตัวอย่าง

ทีมผู้ทำเหรียญ Gyeongsangbuk ได้เข้าเยี่ยมชม Zug City หรือที่รู้จักในนามของ “Crypto Valley”

Zug เป็นเมืองสำหรับบริษัท Start up ด้าน Blockchain ที่ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีบริษัทอยู่ประมาณ 170 บริษัท และคิดภาษีในอัตราที่ต่ำ ซึ่ง zug เป็นเมืองที่ไม่ค่อยมีกฏระเบียบอะไรควบคุมอย่างเคร่งครัด จึงทำให้สามารถมุ่งเน้นในการพัฒนานวัตกรรมด้านคริปโตได้มากกว่าเมืองอื่น

อย่างไรก็ตามบริษัท Startup ด้าน Blockchain นาม Obs ได้เซ็นต์สัญญากับทาง Gyeongsangbuk เพื่อเข้ามาสนับสนุนโปรเจกต์การออกเหรียญคริปโตสำหรับท้องถิ่น

The post ประเทศเกาหลีใต้กำลังจะออกเหรียญคริปโตของตัวเอง นาม Gyeongbuk Coin appeared first on Siam Blockchain.

Bitcoin Cash ทดสอบเครือข่ายด้วยการทำธุรกรรมกว่า 2.1 ล้านรายการ และค่าธรรมเนียมเท่าเดิม

อ้างอิงจาก BitInfoCharts Bitcoin Cash ได้ทำการทดสอบเครือข่าย (Stress Test) ของพวกเขาด้วยการทำธุรกรรมจำนวน 2.1 ล้านรายการ

Stress Test คือการทดสอบ Mainnet โดยชุมชนของเครือข่ายนั้น ๆ การทดสอบดังกล่าวมีจุดประสงค์ที่จะทดสอบว่าเครือข่ายสามารถประมวลผล “ธุรกรรมด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่สุด” ได้หรือไม่ ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง เป็นการทดสอบขีดจำกัดด้าน Blockchain ของ Bitcoin Cash และเป็นการแสดงศักยภาพของเครือข่ายให้กับเหล่านักพัฒนา DApps รับทราบ

การทดสอบดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอีก 10 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ Bitcoin Cash วางแผนที่จะทำการอัพเกรด Blockchain

อ้างอิงจาก BitInfoCharts หลังจากที่มีการทดสอบเกิดขึ้น ปริมาณการทำธุรกรรม Bitcoin Cash คิดเป็น 63 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณคริปโตทั้งหมด ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมี Ethereum ตามมาเป็นอันดับที่ 2

อ้างอิงจาก Coin Dance ในระหว่างที่มีการทดสอบเกิดขึ้น ปริมาณการทำธุรกรรมรายย่อยของเครือข่าย BCH พุ่งขึ้นไปถึง 14,300 รายการต่อ Block ซึ่งปกติจะอยู่ที่เพียง 90 ถึง 150 รายการต่อ Block เท่านั้น หากนำไปเปรียบเทียบกับ Bitcoin จะมีปริมาณการทำธุรกรรมต่อรายการที่ 1,000 ถึง 1,500 รายการต่อ Block

อ้างอิงจาก BitInfoCharts ค่าธรรมเนียมของการทำธุรกรรม Bitcoin Cash ไม่ได้มีการเพิ่มขึ้น จริง ๆ แล้ว มันกลับลดลงเล็กน้อยด้วยซ้ำ

หลังจากที่การทดสอบเกิดขึ้น อ้างอิงจาก Coinmarketcap ราคาของ Bitcoin Cash เพิ่มขึ้นประมาณ 3.1 เปอร์เซ็นต์ และถือเป็นคริปโตที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาเยอะที่สุดในเวลานั้น

ที่มาภาพ Hacked

The post Bitcoin Cash ทดสอบเครือข่ายด้วยการทำธุรกรรมกว่า 2.1 ล้านรายการ และค่าธรรมเนียมเท่าเดิม appeared first on Siam Blockchain.

Eminem แรปเปอร์ชื่อดัง ได้พูดถึง Bitcoin ในอัลบั้มเพลงล่าสุดของเขา

Eminem แรปเปอร์และนักแสดงชื่อดัง ได้กล่าวถึง Bitcoin ในอัลบั้มเพลงล่าสุดของเขา “Kamikaze”

เพลงดังกล่าวมีชื่อว่า “Not Alike” โดยมีการพูดถึง Bitcoin

“จำได้ว่าเมื่อก่อนทุก ๆ คนพูดถึง Nickel แต่ตอนนี้ทุก ๆ คนกำลังลงทุน Bitcoin”

อ้างอิงจากรายงาน อัลบั้มดังกล่าวได้มีการเปิดตัวในเที่ยงวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นเซอร์ไพส์จาก Eminem โดยอัลบั้มล่าสุดของเขาคือ “Revival” ที่เปิดตัวไปในเดือนธันวาคมปี 2017

ถึงแม้การพูดถึง Bitcoin โดย Eminem จะไม่ส่งผลกับราคา Bitcoin แต่อย่างใด แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ในวงการบันเทิงที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตลาดคริปโต

หนึ่งเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของ Bitcoin คือ เมื่อตอนที่ Ellen DeGeneres เจ้าของรายการชื่อดัง ได้กล่าวถึง Bitcoin ในรายการของเธอเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า “ทุก ๆ คนกำลังพูดถึง Bitcoin แต่ไม่มีใครเข้าใจมันเลย”

เธอได้กล่าวถึงนักลงทุน Bitcoin ว่า “คุณจะกลายเป็นเศรษฐี ไม่ก็หมดตัวไปเลย”

อุตสาหกรรมเพลงแรปได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Cryptocurrency เกิดการยอมรับมากขึ้น โดยแรปเปอร์ 50 ent ได้รับการชำระเงินด้วย Bitcoin สำหรับอัลบั้ม “Animal Ambition” ของเขา

นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Snoop Dogg ได้มางานอีเว้นท์ที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองของ XRP อีกด้วย

The post Eminem แรปเปอร์ชื่อดัง ได้พูดถึง Bitcoin ในอัลบั้มเพลงล่าสุดของเขา appeared first on Siam Blockchain.

นาย Tom Lee กล่าว “Ethereum Futures อาจแย่ต่อ ETH แต่ดีกับ Bitcoin”

แม้ว่าในขณะนี้ตลาดจะอยู่ในภาวะขาลง แต่การพัฒนาอุตสาหกรรมด้านคริปโตกำลังเริ่มขึ้น โดยหลายบริษัทต่างออกผลิตภัณฑ์และบริการที่อาจเปลี่ยนอนาคตของ Cryptocurrency เลยก็ได้

อ้างอิงจาก Business Insider นาย Tom Lee CEO ของบริษัท Fundstrat กล่าวว่า Ethereum Futures อาจทำให้ราคาของ Ethereum ตก เทียบกับเมื่อปลายปีที่แล้ว Bitcoin Futures ได้เปิดตัว ราคา Bitcoin ก็ร่วงลงมาอยู่ในช่วง 7200 ดอลลาร์ จากราคาสูงสุดที่ 19,500 ดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันราคา Bitcoin ลดลงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์จากช่วงกลางเดือนธันวาคมปี 2017

พื้นที่สำหรับตลาดหมี

นาย Lee กำลังวิเคราะห์ว่าทำอย่างไรให้การซื้อขาย  Futures ของ Cryptocurrency นั้นได้ผล และทำให้นักเทรดสามารถเดิมพันความเคลื่อนไหวของ “เหรียญ” โดยที่ไม่ต้องเป็นเจ้าของเหรียญ โดยตรรกะนี้ จะทำให้ ETH Futures สามารถมีโอกาสให้ช่วงตลาดหมีนั้นสามารถทำการ Shot ETH ได้

ราคา ETH น่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นหรืออ่อนค่าลงหรือการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ Utility Token

ทั้งนี้ ETH Futures ใกล้เปิดตัวแล้ว โดยทาง Cboe กำลังขอให้ทาง SEC สหรัฐฯ อนุมัติคำขออย่างเป็นทางการ และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายนทาง SEC ได้ประกาศให้ Ethereum ไม่ใช่หลักทรัพย์ และเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา CBOE ประกาศเตรียมเปิดให้ซื้อขาย Ethereum Futures ภายในปี 2018

The post นาย Tom Lee กล่าว “Ethereum Futures อาจแย่ต่อ ETH แต่ดีกับ Bitcoin” appeared first on Siam Blockchain.

Sunday, September 2, 2018

สถาบันการเงิน Mufg Group แห่งประเทศญี่ปุ่นออกเหรียญคริปโตให้พนักงานใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อ

Mitsubishi UFJ Financial Group หนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกทดสอบใช้เหรียญคริปโตของตนชื่อว่า ‘Mufg Coin’ ให้พนักงานใช้เหรียญในการชำระค่าสินค้าในร้านสะดวกซื้อ รายงานจากข่าวท้องถิ่น

การชำระค่าสินค้าในร้านสะดวกซื้อ

Mitsubishi UFJ Financial Group (Mufg) ออกเหรียญของตนเองโดยใช้ชื่อว่าเหรียญ Mufg Coin เพื่อให้พนักงานใช้จ่ายสินค้าในร้านสะดวกซื้อเท่านั้นซึ่งตั้งอยู่ในสำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว Sankei Shimbun ได้เข้าไปดูในร้านสะดวกซื้อดังกล่าวและให้ความเห็นว่า ‘มันกำลังคืบหน้าไปเรื่อย ๆ’

เคาน์เตอร์แคชเชียร์ของทางร้านถูกตั้งค่าไว้สำหรับการชำระสินค้าโดย Mufg Coin ซึ่งพนักงานสามารถสแกน QR code ที่ปรากฏอยู่บน smart phone ของตนเพื่อชำระค่าสินค้าได้เลย Mufg Coin จะตรวจสอบปัญหาที่ผู้ใช้และผู้ขายต้องพบเจอ นอกจากการจ่ายค่าสินค้าในร้านสะดวกซื้อแล้ว เหรียญดังกล่าวยังสามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนเงินระหว่างเพื่อนร่วมงานได้ เช่น การแบ่งกันจ่าย เป็นต้น

Mufg เป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสินทรัพย์รวมทั้งหมด 306 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2.76 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ)  สาขาย่อยของ Mufg หรือ Mufg Bank ก็เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นมีสำนักงานอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นและในประเทศอื่น ๆ อีก 40 ประเทศ

แผนการสำหร้บ Mufg Coin

Mufg Coin ย่อมาจาก ‘Mitsubishi UFJ Financial Group’ ซึ่งทำการสำรวจว่าเทคโนโลยี Blockchain จะสามารถนำมาใช้กับกิจกรรมทางการเงินได้อย่างไร เช่น การทำธุรกรรมการถอนเงิน ฝากเงินเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ เป็นต้น

เหรียญนี้มีประสิทธิภาพในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (Large-scale commercial potential) ในขณะเดียวกันก็ให้บริการลูกค้าธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก นอกจากการใช้เหรียญ Mufg ในการชำระค่าสินค้าแล้ว Mufg กำลังทดสอบการให้ reward เป็นเงินดิจิทัลสำหรับพนักงานที่ทำงานล่วงเวลาน้อยลงและหันมาดูแลสุขภาพของตนเอง คุณ Mainichi ชาวญี่ปุ่นอธิบายว่าเหรียญนี้อิงค่ากับเงินเยนเป็นหลักโดย 1 เหรียญ Mufg มีค่าเท่ากับ 1 เยน

The Mufg Group ให้รายละเอียดว่าธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายก็จริงแต่ในแง่ของค่าใช้จ่ายและเวลาที่ใช้ในการจัดหา การจัดเก็บและการขนส่งธนบัตรและเหรียญกษาปณ์มักถูกมองข้ามไป เหรียญ Mufg จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นโครงสร้างพื้นฐานการเงินแบบ cashless finance ที่มีต้นทุนต่ำ

Mufg Coin สามารถ transfer กันได้อย่างรวดเร็วและสามารถที่จะใช้จ่ายสำหรับค่าสินค้าและบริการที่มีราคาไม่มาก เช่น เป็นราคาในจุดทศนิยม .03 เป็นต้น

ที่มา News Bitcoin

The post สถาบันการเงิน Mufg Group แห่งประเทศญี่ปุ่นออกเหรียญคริปโตให้พนักงานใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อ appeared first on Siam Blockchain.

วิเคราะห์ราคา Bitcoin ประจำสัปดาห์: วันที่ 02 กันยายน 2561

บทความวิเคราะห์ราคารายสัปดาห์นี้เป็นของ Bitman ซึ่งเป็น Partner กับสยามบล็อกเชน สำหรับงานวิเคราะห์ราคารายวันสามารถกดดูที่เพจของ Bitman ได้ที่นี่

ราคาของ Bitcoin ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้
โดยปัจจุบัน Bitcoin มี Market cap. อยู่ที่ประมาณ 124,106,140,941 ดอลลาร์ และ
มูลค่ารวมของตลาด Cryptocurrency อยู่ที่ประมาณ 237,935,667,712 ดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขมูลค่ารวมของ Bitcoin และมูลค่ารวมของทั้งตลาดนั้นยังคงเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ก่อนหน้า

โดยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้มีข่าวที่หลากหลายในวงการคริปโตเกิดขึ้นมากมาย เช่น

Time Frame 1D

ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาได้มีการเบรคขึ้นมาเหนือแนวต้านสำคัญที่ 6,800 ดอลลาร์ และขึ้นไปเหนือเสัน EMA55 และขึ้นไปทดสอบโซนแนวต้านที่ประมาณ 7,000 – 7,100 ดอลลาร์ ก่อนจะมีการปรับตัวลงมาทดสอบเส้น EMA55 และเส้นแนวรับสำคัญที่ 6,800 ซึ่งเคยเป็นแนวต้านมาก่อนหน้านี้ โดยราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับ และยืนเหนือเส้น EMA55 ได้ ส่งผลให้บริเวณแนวรับที่ 6,800 ดอลลาร์ นั้นกลายมาเป็นแนวรับสำคัญของราคา ณ ปัจจุบันนี้
ล่าสุดแท่ง 1 วันเมื่อวานได้ Break up ขึ้นไปเหนือโซนแนวต้านที่ 7,000 – 7,100 ดอลลาร์  โดยทำ swing high ไว้ที่ 7,269 ดอลลาร์ และกลับลงมาปิดแท่งที่ 7,197 ดอลลาร์ อิงจาก Bitfinex

จากภาพรวมของการปรับตัวขึ้นมาและสัดส่วนการพักตัวของราคาในช่วงต้นสัปดาห์ ยังคงบ่งบอกว่าราคานั้นยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปต่อในระยะนี้ โดยมีโอกาสขึ้นไปทดสอบเส้น EMA200 ที่บริเวณ 7,550 ดอลลาร์ โดยประมาณ

Time Frame 4H

ราคายังคงปรับตัวขึ้นมาในกรอบของ Ascending channel ซึ่งจะเห็นว่าจากการปรับตัวขึ้นมาจากแนวรับที่ 6,000 ดอลลาร์ นั้น ราคาได้มีการปรับตัวขึ้นมาโดยทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้น และทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นมาตลอด ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นมาเป็น Uptrend อยู่ในระยะสั้นนี้
นอกจากนี้ราคายังได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้น EMA ทั้งสามเส้นในช่วงต้นสัปดาห์ และเส้น EMA55 ได้ตัดขึ้นมาเหนือเส้น EMA200 ส่วนเส้น EMA100 ก็กำลังจะตัดขึ้นมาเหนือเส้น EMA200 เช่นกัน ซึ่งบ่งบอกว่าแนวโน้มของราคาในระยะสั้นนี้ยังคงมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้อยู่

Time Frame 1W

จากภาพรวมรายสัปดาห์จะเห็นว่า แนวโน้มของราคาค่อนข้างจะเป็น Bullish หลังจากที่เกิดแท่งเทียนกลับตัวในรูแบบของ Hammer และคอนเฟิร์มสัญญาณด้วยการปรับตัวขึ้นมาปิดบวกในสัปดาห์ถัดมา นอกจากนี้ยังเกิดรูปแบบของ Double Bottom ซึ่งเป็นรูปแบบที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของราคาอีกด้วย ฉะนั้นในระยะยาวจึงยังมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดก่อนหน้า และหากเบรคขึ้นไปปิดเหนือจุด neckline ได้ก็จะถือเป็นการปรับตัวขึ้นมาทำ New High ครั้งแรกในรอบปีนี้ ของ TF 1W  แต่ถ้าหากราคาสามารถขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดก่อนหน้าได้ แต่ไม่สามารเบรคจุด neckline ขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสที่จะเกิดรูปแบบ Double Top ซึ่งจะกลายเป็นสัญญาณกลับตัวลงมาอีกครั้งของราคา

Indicator Signal Time Frame 1W

สัญญาณจาก MACD ในภาพรวมรายสัปดาห์ยังคงเกิด Bullish Divergence ให้เห็น รวมถึงการที่ราคาไม่ทำ Lower low นั้นก็บ่งบอกว่าได้ว่าราคานั้นยังคงมีโอกาสที่จะกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ 8,200 – 8,500 ดอลลาร์ โดยประมาณ

ความเดิมสัปดาห์ที่แล้ว

จากกาคาดการณ์สัปดาห์ที่แล้ว อิงจากมุมมองขาขึ้น เกิดสัญญาณกลับตัวของสัปดาห์ที่แล้วและการปรับตัวขึ้นมาในสัปดาห์นี้ และโอกาสที่จะเกิดรูปแบบ Double Bottom รวมถึงสัญญาณ Bullish Divergence ที่เกิดขึ้นมาให้เห็นหลายสัปดาห์แล้วนั้น คาดว่าในสัปดาห์หน้าราคายังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปอีกครั้ง โดยมีจุดทดสอบที่เป็นแนวต้านของราคาที่ 6,800 ดอลลาร์ และเส้นEMA55 ที่ทำหน้าที่เป็นแนวต้านร่วมอยู่ที่ประมาณ 7,150 ดอลลาร์ ซึ่งถ้าราคาสามารถเบรคขึ้นไปได้ ในระยะยาวมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ 8,500 ดอลลาร์ แต่ในระยะกลางนั้น ใน TF 1D หากราคาขึ้นมายืนเหนือ 6,800 – 7,150 ดอลลาร์ได้นั้น จะมีอีกจุดที่เป็นจุดทดสอบของราคาอยู่ที่ 7,585 โดยประมาณซึ่งมีเส้น EMA200 ทำหน้าที่เป็นแนวต้านร่วมอยู่บริเวณนั้น

ซึ่งในสัปดาห์นี้ราคาได้ปรับตัวขึ้นมาตามที่คาดการณ์ไว้ โดยได้เบรคขึ้นมาเหนือแนวต้านที่ 6,800 ดอลลาร์ และเบรคขึ้นไปเหนือโซนแนวต้านที่ 7,000 – 7,100 ดอลลาร์ โดยราคา ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 7,225 ดอลลาร์ โดยประมาณ

การคาดการณ์

มุมมองขาขึ้น :

จากสัญญาณ Divergence ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาในภาพรวมรายสัปดาห์ (TF 1W) และรูปแบบ Double Bottom ที่เกิดขึ้น รวมถึงการปรับตัวขึ้นมาเหนือแนวต้านในภาพรวมรายวัน (TF 1D) นั้นบ่งบอกว่าราคายังมีโอกาสในการปรับตัวขึ้นไปที่จุดสูงสุดก่อนหน้าที่ประมาณ 8,200 – 8,500 ดอลลาร์อยู่ ในระยะยาว แต่ในระยะกลางยังคงมีโซนแนวต้านถัดไปที่เป็นอุปสรรคต่อราคาอยู่ที่ประมาณ 7,700 – 7,800 ดอลลาร์ และมีเส้น EMA200 ใน TF 1D ทำหน้าที่เป็นแนวต้านร่วมอยู่ที่ประมาณ 7,550 ดอลลาร์

มุมมองขาลง :

มีแนวรับระยะสั้นของราคาอยู่ที่ประมาณ 7,000 ดอลลาร์ ซึ่งเคยเป็นแนวต้านของราคามาก่อน และมีแนวรับสำคัญของราคาอยู่ที่ 6,800 ดอลลาร์ ต่ำกว่านั้นจะมีแนวรับระยะกลาง อยู่ที่ 6,600 – 6,200 ดอลลาร์ และแนวรับระยะยาวอยู่ที่ 6,000 – 5,755 ดอลลาร์ โดยประมาณ

หมายเหตุ : การลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ทางสยามบล็อคเชน จะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียใดๆในทุกกรณี

 

The post วิเคราะห์ราคา Bitcoin ประจำสัปดาห์: วันที่ 02 กันยายน 2561 appeared first on Siam Blockchain.

ราคา Bitcoin พุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบเดือนที่ 7,200 ดอลลาร์ ตลาด Altcoin เขียวรับเดือนใหม่

ราคาของเหรียญเจ้าแห่งตลาดคริปโตทั้งปวงอย่าง Bitcoin ดูเหมือนว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของราคาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา

กราฟจาก Coinmarketcap เผยถึงการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin อย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นจาก 7,057 ดอลลาร์เมื่อตอน 3 ทุ่มของเมื่อวานไปแตะ 7,231 ดอลลาร์เมื่อช่วงตีสี่ของวันที่ 2 กันยายน 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 2.23% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และถือเป็นจุดสูงสุดในรอบเดือน

นอกจากนี้ค่า BTC Dominance ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน โดยขึ้นไปแตะจุดสูสุดที่ 54.51% ก่อนที่จะคงตัวอยู่ที่ 52.2%

ที่น่าสนใจคือ เหรียญในกระดานส่วนใหญ่นั้นดูเหมือนว่าจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาจนกลายเป็น ‘สีเขียว’ เกือบทั้งกระดาน ซึ่งเหรียญอันดับ Top 10 ที่มีเปอร์เซนต์การเพิ่มขึ้นของราคาที่มากที่สุดคือ Bitcoin Cash โดยอยู่ที่ 18.38% ที่ราคา 652.07 ดอลลาร์ในขณะนี้ จาก 541 ดอลลาร์ของเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา

ตลาดไทยเริ่มขยับตาม

อย่างไรก็ตาม ราคาของ Bitcoin บนตลาดไทยนั้นก็กำลังเริ่มที่จะขยับตามตลาดโลกแล้วในขณะนี้

กราฟราคาของเหรียญดังกล่าวจากเว็บกระดานซื้อขายสัญชาติไทย Bitkub ได้แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของราคาเช่นกัน โดยในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคานั้นอยู่ที่ 232,618 บาท หรือคิดเป็นเงินดอลลาร์ที่ 7,110 ดอลลาร์ ซึ่งยังห่างกับตลาดโลกอยู่พอสมควร

ในขณะเดียวกัน ราคา Bitcoin บนตลาด Bx นั้นดูเหมือนว่าจะไม่ห่างกันมาก โดยในขณะนี้อยู่ที่ 232,888 บาท

The post ราคา Bitcoin พุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบเดือนที่ 7,200 ดอลลาร์ ตลาด Altcoin เขียวรับเดือนใหม่ appeared first on Siam Blockchain.

ตัวอัพเดต Bitcoin ครั้งสำคัญที่จะมาถึง จะมีการเปิดตัวภาษาใหม่สำหรับ Crypto Keys

Bitcoin อาจจะใช้งานยากแม้จะมีเครื่องหลาย ๆ เครื่องมือที่มีความพยายามในการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่ายกับต่อลูกค้า แต่ในแง่การทำงานโครงสร้างพื้นฐานของมันเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก อย่างไรก็ตามก็ยังมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้อยู่

กลุ่มนักพัฒนา ของ‘Bitcoin Core’ จะปล่อยตัว Software ครั้งที่ 17 ออกมาซึ่งคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง Code และปรับปรุง ตัว default wallet ซึ่งเป็นที่เก็บ Key ของผู้ใช้งาน Bitcoin

การอัพเดทที่น่าสนใจที่สุดอาจจะเป็นการเปิดตัว ‘ภาษาใหม่’ ครั้งแรกที่ออกแบบโดยนาย Pieter Wuille ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ที่มีอิทธิพลต่อการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง Bitcoin ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่ง Segregated Witness ที่ช่วยแก้ปัญหาด้านความสามารถในการขยายระบบเพื่อรองรับการใช้งานของ Bitcoin (Bitcoin’s scalability problem) ก็ถือเป็นผลงานของเขาด้วยเช่นกัน

ความคิดที่จะเพิ่มภาษาใหม่เข้ามานั้นตั้งอยู่บนจุดประสงค์เพื่อเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมให้กับ key ซึ่งในฐานะผู้สนับสนุน Bitcoin Core นั้น นาย Andrew Chow กล่าวว่ามันช่วยเพิ่มทางเลือกที่ดีให้กับระบบบัญชีผู้ใช้งานเพราะผู้ใช้งานจะสามารถตั้งชื่อบัญชีของตนได้ เช่น บัญชีบริจาคหรือบัญชีเงินเก็บ เป็นต้น

และความสำคัญของภาษาใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นี้อีกประการหนึ่งคือมันช่วยให้การเคลื่อนย้าย Key จากวอลเล็ทหนึ่งไปยังวอลเล็ทอื่นง่ายขึ้น ซึ่งในสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้คือเมื่อผู้ใช้งานต้องการที่จะย้าย Key จากวอลเล็ทหนึ่งไปยังวอลเล็ทอื่นมันจะส่งผลกระทบคือทำให้ข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับการปลดล็อคเหรียญและส่งไปให้กับผู้อื่นได้อย่างไรนั้นหายไป

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับการทำธุรกรรมหลาย ๆ ธุรกรรม ทั้งนี้ การทำธุรกรรมส่วนใหญ่จะมีคำแนะนำว่าเจ้าของต้องลงลายมือชื่อการทำธุรกรรมด้วย Secret Key เพื่อพิสูจน์ว่าเหรียญนั้นเป็นของตนจริง แต่มันก็ไม่จริงเสมอไปสำหรับการทำธุรกรรมทุกอย่าง เช่น การทำธุรกรรมที่ต้องลงลายมือชื่อหลายคนด้วยกันซึ่งต้องมีผู้พิสูจน์มากกว่าหนึ่งคนก่อนที่จะใช้จ่ายเหรียญได้ (multi-sig)

หรือการทำธุรกรรมผ่าน Lightning Network ที่เป็นการชำระเงินที่รวดเร็วกว่าอาจเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในกรณีนี้

การทำธุรกรรมผ่าน Lightning Network นี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งการออกภาษามาใหม่นี้ก็เพื่อต้องการยืนยันว่าข้อมูลที่สำคัญจะไม่หายไปบ่อย ๆ

ภาษาใหม่ของนาย Wuille นั้นถูกออกแบบโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแท็กป้ายชื่อบ่งบอกแต่ละ Key ของบิทคอยน์ (ทั้งที่เป็นสาธารณะและส่วนบุคคล) โดยจะมีสัญลักษณ์บอกว่า key ไหนสามารถปลดล็อคได้บ้างซึ่งนับว่า “เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดของวอลเล็ทที่เราเคยรู้จัก” กล่าวโดยนาย John Newbery วิศวกรของ Chaincodeแม้ว่าการเปิดตัวครั้งใหม่นี้จะเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ แต่การเปลี่ยนแปลง Code ครั้งแรกนี้จะเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน นาย Newbery ยังคาดหวังอีกด้วยว่านักพัฒนาที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา code ครั้งนี้ จะถือเป็นทีมที่จะช่วยเหลือการพัฒนาตัว code อื่น ๆ อีกในอนาคต

อนาคตของ Bitcoin Core

ในขณะเดี่ยวกัน แนวคิดการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ก็เริ่มที่จะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว  ซึ่งเป็นก้าวแรกที่เหล่านักพัฒนาคาดหวังไว้ว่ามันจะนำไปสู่สิ่งอื่น ๆ อีกในอนาคต

Partially Signed Bitcoin Transactions (PSBT) ก็เป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ถูกคาดหวังไว้ว่าจะมีขึ้นในอนาคต นาย Chow กล่าว (PSBT เป็นการทำธุรกรรมรูปแบบใหม่สำหรับธุรกรรมที่ยังไม่ได้ sign ทั้งหมดแต่ก็ยังสามารถส่งมอบต่อไปได้จนกว่าจะมีการ Broadcast บน blockchain)

ทั้งหมดนี้ฟังดูค่อนข้างเป็นเรื่องเกี่ยวกับด้านเทคนิค แต่ความคิดนี้ค่อนข้างเป็นที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยและอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานจำนวนมาก

ในตอนนี้ก็มี Hardware Wallet มีจำหน่ายในตลาดแล้ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการพิจารณาว่าปลอดภัยสำหรับการเก็บ Bitcoin เพราะมันสามารถเคลื่อนย้าย Key ที่สามารถปลดล็อคกระเป๋า wallet แบบออฟไลน์ได้ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถถูกขโมยผ่านทางการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้

แต่ Hardware Wallet แต่ละอัน รวมถึง Trezor, Ledger และอื่น ๆ นั้นค่อนข้างที่จะมีความ “เป็นตัวของตัวเองสูง” เพราะมันไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Wallet แบบ software ทุก ๆ อันไปพร้อม ๆ กันได้

การใช้งาน Hardware Wallet ที่ง่ายที่สุดคือตั้งค่าให้มันเป็นออฟไลน์ จากนั้นเชื่อมต่อกับ Software Wallet บนมือถือเพื่อที่จะได้ทำธุรกรรมได้สะดวก

มันคงจะดีถ้าสามารถได้รับความปลอดภัยจาก Hardware Wallet ไปพร้อม ๆ กับได้รับความสะดวกจาก Software Wallet ไปพร้อม ๆ กัน แต่ปัญหาคือ Hardware Wallet แต่ละตัวนั้นส่วนใหญ่จะรองรับ software wallet เพียงแค่หนึ่งหรือสอง wallet เท่านั้น เช่น Trezor ก็รองรับแค่ Electrum Software Wallet แต่จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Bitcoin Core หรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ ได้เลย

ผู้ใช้งานก็ร้องทุกข์เกี่ยวกับปัญหาที่น่าเบื่อนี้มานาน ซึ่งตัวอัพเกรด BIP 174 ก็ได้มีการเสนอการปรับปรุงดังกล่าว ให้มันเป็นมาตรฐานที่ทุก ๆ วอลเล็ทสามารถใช้งานได้

มันขึ้นอยู่กับว่าวอลเล็ทนั้นจะเลือกฟังค์ชันดังกล่าวมาใช้จริงหรือไม่ แม้ว่า Code จะยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มันก็ดึงดูดความสนใจจากผู้สร้าง hard ware wallet เป็นอย่างมาก โดยมี Hardware Wallet เจ้าหนึ่งคือ Coldcardwallet นำวิธีการลงลายมือชื่อธุรกรรมมาใช้แล้ว

หากวอลเล็ทนำมาตรฐานนี้มาใช้จะทำให้กระเป๋า Bitcoin Core สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นเล็กน้อยเนื่องจาก Hardware Wallet จะสามารถเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ได้โดยมีความสะดวกมากขึ้น

“PSBT จะช่วยให้ Bitcoin Core สามารถรองรับ Hardware Wallet ได้ง่ายขึ้นและมีการตั้งค่า Wallet แบบออฟไลน์และ Airgapped Wallet ได้ดีขึ้น “จริง ๆ ผมกำลังทำการรับรอง Hardware Wallet สำหรับ Bitcoin Core โดยใช้ PSBT” นาย Chow กล่าวกับทาง CoinDesk ซึ่งก็มีการถกเถียงว่า Bitcoin Core ปลอดภัยกว่ามากสำหรับการใช้ Bitcoin มากกว่า Software Wallet อื่น ๆ หรือไม่

“SPV wallet มีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเนื่องจากว่ามันเป็นการไว้ใจให้กับฝ่ายบุคคลที่สามทำการ verify Blockchain ได้ ดังนั้นเมื่อ Bitcoin Core รองรับ Hardware Wallet แล้วผู้ใช้ก็สามารถใช้ Bitcoin Core แทนและเนื่องจากมันเป็นรูปแบบของ Full node (กระเป๋าที่เก็บประวัติการทำธุรกรรมตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน) ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องไว้ใจให้บุคคลที่สามอื่น ๆ มา verify อีกต่อไป” เขากล่าว

การเปลี่ยนแปลง Code นำมาสู่ทางเลือกอื่น ๆ อีกมาก และแม้แต่การเพิ่มประสิทธิภาพของ Smart Contract ของ Bitcoin และรูปแบบความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ “PSBT ทำให้การทำ multi-signs และ CoinJoins ทำได้ง่ายมากขึ้น” นาย Chow กล่าว

ท้ายที่สุด หนึ่งในผู้ใช้งานทวิตว่า “ตื่นเต้นที่จะเห็นการนำ BIP174 มาใช้”

และอื่น ๆ อีกมาก

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือสิ่งที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์มีกำลังสร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มผู้ใช้งาน แต่มีการอัปเกรดอื่น ๆ อีกหลายสิบแบบที่กำลังจะถูกเปิดตัวออกมา หนึ่งในนั้นคือฟีเจอร์ “Dynamic Wallet Creation”

“ก่อนหน้านี้พวกเราได้พัฒนาการใช้งาน wallet แบบหลาย ๆ ตัวภายใน Bitcoin Core มาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การจะใช้ฟีเจอร์นั้นจะต้องกำหนดการตั้งค่าสำหรับ Multiple Wallets ใน Bitcoin Core เสียก่อน แต่ตอนนี้เราสามารถโหลด อัพโหลดและสร้างวอลเล็ทได้ในซอฟต์แวร์ทันที” นาย Chow กล่าว

ในขณะเดียวกันคุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ Coin Selection ซึ่งเป็นการรวมเอาเหรียญหลาย ๆ ตัวส่งเข้าไปในธุรกรรม ๆ เดียว ทำให้ระบบเครือข่ายของ Bitcoin มีการพัฒนามากขึ้น ซึ่งอาจถึงขั้นแก้ปัญหาการ scaling ได้ และรวมถึงลดค่าธรรมเนียมในการส่งลงได้อีกด้วยCode หลักสำหรับ Feature ใหม่นี้ถูกเพิ่มเข้าไปเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้วและอัลกอริทึมนี้ก็มีจะมีการเพิ่มความเป็นส่วนตัวเมากขึ้นอีกเล็กน้อย

ส่วนรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่เหลือจะถูกอธิบายไว้ใน Final Release Note ที่จะปล่อยออกมาในเวลาเดียวกันกับ Tested Code

อาจจะดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยโดยเฉพาะเมื่อมีผู้คนจำนวนน้อยที่ใช้ Bitcoin และ Bitcoin Core ซึ่งไม่ต้องถามว่าทำไมถึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะในปัจจุบันนั้นตัวกระเป๋า Bitcoin Core ใช้พื้นเก็บข้อมูลธุรกรรม full node ที่ประมาณ 200 GB (และจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ) ดังนั้นการดาวน์โหลดและใช้งานจึงใช้เวลานานมาก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้อาจทำให้ลดปัญหาดังกล่าวลงได้ส่วนหนึ่ง

ที่มา: CoinDesk

The post ตัวอัพเดต Bitcoin ครั้งสำคัญที่จะมาถึง จะมีการเปิดตัวภาษาใหม่สำหรับ Crypto Keys appeared first on Siam Blockchain.

Saturday, September 1, 2018

สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นติดตั้งระบบติดตามการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency

สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น รายงานว่า จะมีการติดตั้งระบบเพื่อติดตามการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหรียญ cryptocurrency เพื่อช่วยในการสืบสวนอาชญากรรมไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญเหล่านี้ อ้างอิงจากสื่อท้องถิ่น ระบบนี้คาดว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อกำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซีเป็นสำคัญ

การติดตามการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (Japan’s National Police Agency หรือ NPA) ประกาศในวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า Software ที่จะเปิดตัวในต้นปีหน้าจะถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี เช่น ตรวจสอบว่ามีการฟอกเงิน, การโจรกรรม, หรือการกระทำผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คริปโตเคอร์เรนซีหรือไม่

“โดยปกติแล้ว การก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวกับคริปโตจะกระทำผ่านบัญชีหลายบัญชี Fisco News Outlet กล่าวว่า “สำนักงานตำรวจมีความจำเป็นที่จะต้องทำการติดตาม Records จำนวนมากระหว่างทำการสืบสวน” สำนักงานข่าวดังกล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า:

“ระบบปฏิบัติงานดังกล่าวจะมุ่งเน้นการตรวจสอบไปที่สกุลเงินใหญ่ ๆ เช่น BTC หรือ ETH ซึ่งหน่วยงานภาครัฐอย่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (NPA), กรมตำรวจของโตเกียว (Tokyo Metropolitan Police Department), และกรมตำรวจของโอซาก้า (Osaka Prefectural Police Department) จะใช้ระบบนี้ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งจะเริ่มใช้ประมาณช่วงต้นปีหน้า”

การทำงานของระบบ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Nikkei ให้งบประมาณในการตรวจสอบการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์กว่า 2.7 พันล้านเยน (หรือประมาณ 24.3 ล้านเหรียญสหรัฐ)

สำนักข่าว NHK ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทางสำนักงานมีแผนที่จะเพิ่มงบประมาณให้ประมาณ 35 ล้านเยนเพื่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับการเปิดตัวซอฟต์แวร์ดังกล่าว

Yomiuri Shimbun กล่าวว่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะสามารถดึงข้อมูลการทำธุรกรรมที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบจากข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมหาศาลได้ซึ่งทำให้การสืบสวนในโลกไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น:

“ซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษนี้จะสามารถดึงข้อมูลที่จำเป็นสำหรับทำการสืบสวนและตัวซอฟต์แวร์นี้จะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำงานของคริปโตเคอร์เรนซีที่ไม่สามารถถูกตรวจพบได้ใน Blockchain database”

Nikkei กล่าวต่อไปว่า “เพื่อที่จะทำให้การตรวจสอบธุรกรรมเป็นไปอย่างราบรื่น ซอฟต์แวร์ดังกล่าวนี้ยังสามารถใช้ในการตรวจสอบการก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีด้วย”

การต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์

ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ข้อมูล ตัวระบบจะช่วยให้การตรวจสอบการก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี เช่น การฉ้อโกง การฟอกเงิน เป็นต้น มีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเผยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่ามีการทำธุรกรรมกว่า 669 ธุรกรรมเป็นการทำธุรกรรมที่น่าสงสัยซึ่งได้รับการรายงานมาจาก Crypto Exchange ในปีที่แล้วช่วงเมษายนถึงธันวาคม

ในเดือนมีนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ Nikkei เผยสถิติที่เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นครั้งแรก มีเคสกว่า 149 เคสเป็นเรื่องความพยายามที่จะแฮ็คบัญชีคริปโตเคอร์เรนซีส่วนบุคคลซึ่งสร้างความเสียหายกว่า 662.4 ล้านเยน เงินทุนของบริษัทกว่า 16 บริษัทรวมถึงเงินทุนของ Crypto Exchange หลายรายและเงินทุนของผู้ให้บริการ Wallet กว่า 3 รายถูกขโมย

ที่มา News Bitcoin

The post สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นติดตั้งระบบติดตามการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency appeared first on Siam Blockchain.

Firefox เริ่มบล็อคสคริปต์ขุดเหรียญคริปโตเพื่อให้เว็บไซต์มีความปลอดภัยมากขึ้น

Firefox จะทำการบล็อค Scripts ที่จะแอบฝังอยู่บนเว็บไซต์เพื่อขโมยแรงประมวลผล CPU มาขุดเหรียญคริปโตโดยอัตโนมัติ เพื่อผล้กดันให้การท่องเว็บไซต์มีความปลอดภัยภาพมากขึ้น

The Mozilla Foundation องค์กรธุรกิจที่ไม่แสวงหาผลกำไรกล่าวในวันพฤหัสที่ผ่านมาว่าทางบริษัทตั้งใจที่จะบล็อคตัว Trackers และการกระทำอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อระบบ

โดยจะมีฟังก์ชั่นใหม่ เช่น Anti-tracking function เพิ่มเข้ามาใน Firefox เวอร์ชั่น Nightly โดยจะมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน Scripts จากบุคคลภายนอกที่จะแฝงอยู่บนเว็บไซต์ที่ไม่ประสงค์ดี โดย นาย Nick Nguyen รองประธานบริษัท Mozilla กล่าวว่า “Scripts ดังกล่าวจะถูกฝังอยู่ในเว็บไซต์และสามารถควบคุม CPU คอมพิวเตอร์ได้โดยที่ผู้ใช้งานไม่รู้ตัว”

Scripts ที่ hijack เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะขุดคริปโตเคอร์เรนซีก็จะเข้าข่ายถูกควบคุมและดำเนินการบล็อคด้วยเช่นกัน

“การกระทำที่เป็นการหลอกลวงจากการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ที่สามารถระบุตัวตนได้หรือทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานลดลงจนกลายเป็นเรื่องปกติ” นาย Nguyen กล่าวเพิ่มว่า:

“ยกตัวอย่างเช่น Tracker บางรายจะอาศัยลายนิ้วมือของผู้ใช้งานในการระบุตัวตนผู้ใช้อย่างลับ ๆ บนอุปกรณ์ของผู้ใช้งานและผู้ใช้งานจะไม่สามารถควบคุมมันได้ หรือเว็บไซต์อื่น ๆ ก็จะมีการแอบติดตั้ง Crypto-Mining Scripts ซึ่งจะฝัง Cryptocurrencies บนอุปกรณ์ของผู้ใช้เอาไว้ การกระทำเช่นนี้ทำให้เว็บไซต์เป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยมากขึ้น และเวอร์ชั่นที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ของ Firefox จะบล็อคการกระทำเหล่านี้ทั้งหมด”

เวอร์ชั่น Firefox Nightly จะถูกเปิดตัวออกมาเพื่อทดสอบการใช้งานของฟีเจอร์ที่ออกมาใหม่และถ้าหากประสบความสำเร็จ ผู้ใช้งานจะสามารถใช้งาน Firefox 63 ได้

ทาง Mozilla กำลังร่วมมือกับนักพัฒนาเว็บบราวเซอร์ตัวอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึง Opera และ Google เพื่อที่จะปกป้องผู้ใช้งานจากนักขุดที่อันตรายซึ่งจะทำให้การใช้งานของผู้ใช้นั้นด้อยประสิทธิภาพลงและส่งผลเสียต่อเครื่องคอมพิวเตอร์

ก่อนหน้านี้ Opera ประกาศในเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าจะมีการปกป้องนักขุดด้วยเช่นกันแต่จะให้ทำการขุดผ่านทางเบราว์เซอร์ในมือถือซึ่งสามารถตั้งค่าเริ่มต้นได้และได้เสนอ Cryptominer-Protection ใน Desktop Version ไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน ทาง Google ได้แบนแอพการขุดคริปโตใน Play Store เป็นที่เรียบร้อยแต่ก็ยังไม่ได้มีการกล่าวถึงเรื่องการบล็อค Scripts โดยอัตโนมัติซึ่งจะฝังอยู่ในเว็บไซต์

ที่มา CoinDesk 

 

The post Firefox เริ่มบล็อคสคริปต์ขุดเหรียญคริปโตเพื่อให้เว็บไซต์มีความปลอดภัยมากขึ้น appeared first on Siam Blockchain.

อีคอมเมอร์ซยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นเตรียมซื้อเว็บเทรด Bitcoin เป็นจำนวนเงินกว่า 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัท e-commerce ของญี่ปุ่นนาม Rakuten กำลังวางแผนเปิดตัวเว็บเทรด Bitcoin ในท้องถิ่นตน

บริษัทประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าจะเข้าซื้อกิจการเว็บเทรดที่มีชื่อว่า Everybody’s Bitcoin Exchange ด้วยมูลค่ากว่า 265 ล้านเยน หรือ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทกล่าวว่า “Rakuten เชื่อมั่นว่าการชำระสินค้า e-commerce, offline retail และ P2P ด้วยเงินคริปโตเคอร์เรนซีต้องมีความนิยมมากขึ้นในอนาคต

“ในการที่จะให้บริการการชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี เราเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมี Exchange สำหรับคริปโตเคอร์เรนซีด้วย”

นอกจากนี้ บริษัทยังกล่าวต่อไปว่าการเข้าซื้อกิจการ Exchange นั้นมาจากการที่ลูกค้าชาวต่างชาติถามถึงการรับชำระเงินด้วยคริปโตเป็นจำนวนมากเพื่อความปลอดภัยทางธุรกิจของพวกเขา

เว็บเทรด Everybody’s Bitcoin เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2017 เป็นหนึ่งในเว็บเทรดคริปโตที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการของประเทศญี่ปุ่นซึ่งอยู่ภายใต้การตรวจสอบของ Japan’s Financial Services Agency หลังจากเหตุการณ์แฮคเว็บเทรด Coincheckในเดือนมกราคม ทางหน่วยงานกำกับดูแลจึงจำเป็นที่จะต้องให้การประกอบธุรกิจนี้ปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น

Rakuten จึงมีเป้าหมายในการช่วยให้ Exchange ดังกล่าวทำตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดเพื่อที่จะได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ

ตามประกาศในวันนี้รายงานว่า Everybody’s Bitcoin มียอดขาดทุนสุทธิประมาณ 444,000 ดอลลาร์ในปีงบประมาณล่าสุดวันที่ 30 มีนาคม 2561

ในข้อตกลงการซื้อกิจการมีรายงานระบุว่า Rakuten วางแผนที่จะปล่อยตัวคริปโตของตนเองด้วยเช่นกันเพื่อตอบสนองผู้ใช้งานทั่วโลก

Rakuten เริ่มที่จะรับการชำระเงินด้วย Bitcoin เป็นครั้งแรกในปี 2015 โดยร่วมมือกับทางเว็บไซต์ของสหรัฐอเมริกา นาม ‘Bitnet’ ซึ่งต่อมา Rakuten ก็มีแผนการที่จะเปิด Exchange ในพื้นที่ของตน

ที่มา: CoinDesk

 

The post อีคอมเมอร์ซยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นเตรียมซื้อเว็บเทรด Bitcoin เป็นจำนวนเงินกว่า 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ appeared first on Siam Blockchain.

เว็บเทรดคริปโตชื่อดัง Kraken ปฏิเสธคำขอลิสเหรียญของ OneCoin กล่าวเป็น “เหรียญหลอกลวง”

รายงานจาก Behind MLM เผยว่าทาง OneCoin ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาได้ทำการ “ติดต่อ” ไปยังเว็บผู้ให้บริการกระดานซื้อขายเหรียญ crypto-to-crypto อย่าง Kraken เพื่อทำการลิสเหรียญ ICO ของพวกเขานามว่า OFC ทว่าได้ถูกเว็บผู้ให้บริการดังกล่าวปฏิเสธไป โดยกล่าวหาว่าเป็น “เหรียญหลอกลวง”

ก่อนหน้านี้ทาง OneCoin ได้เผยถึงลิสของเว็บเทรดเหรียญคริปโตทั้งหมด 6 แห่งที่พวกเขาวางแผนว่าจะติดต่อไปทว่าหนึ่งในนั้นก็คือ Kraken ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาไม่มีแผนการที่จะลิสเหรียญ “หลอกลวง” ดังกล่าว อ้างอิงจาก Twitter ของ Kraken ด้านล่างที่ตอบคำถามนาย Alexis Aiono ที่ได้ถามเข้าไปทางเว็บเทรดดังกล่าวว่าจะลิสเหรียญของ OneCoin หรือไม่

แปล: สวัสดีคุณ Alexis ขอขอบคุณที่หยิบยกสิ่งนี้ให้เราเห็น พวกเราไม่มีแผนการที่จะลิสเหรียญ OneCoin หรือเหรียญหลอกลวง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการหลอกลวงของ OneCoin และประวัติฉาวโฉ่ของพวกเขาสามารถหาได้ที่นี่ [Wikipedia]

ที่น่าสนใจคือรายงานนั้นเผยว่าเหรียญ OFC นั้นได้ใช้เทคโนโลยี ERC20 ของ Ethereum อีกด้วย

ก่อนหน้านี้สยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วถึงแผนการเลื่อนการเข้าตลาด public ของ OneCoin จากก่อนหน้านี้ที่วางแผนไว้ว่าจะถูกลิสในเดือนตุลาคมนี้ ไปเป็นปีหน้าแทน

นอกจากนี้ตำรวจในหลาย ๆ ประเทศเริ่มที่จะออกมาดำเนินคดีกับแม่ทีมของ OneCoin แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน, เนเธอร์แลนด์, บัลแกเรีย, ฟินแลนด์ และอื่น ๆ อีกมากมายหลายประเทศ

The post เว็บเทรดคริปโตชื่อดัง Kraken ปฏิเสธคำขอลิสเหรียญของ OneCoin กล่าวเป็น “เหรียญหลอกลวง” appeared first on Siam Blockchain.