นักวิจัยจากสถาบัน American Institute for Economic Research (AIER) ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมิสซูรีในการวิจัยราคาของ Bitcoin ว่ามันสามารถถูกปั่นโดยนักลงทุนเพียงไม่กี่คนได้หรือไม่ โดยรายงานวิจัยฉบับแรกนั้นได้เผยถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างราคาของ Bitcoin และข่าวสาร
AIER ไม่คิดว่ามีทฤษฎีสมคบคิดอยู่เบื้องหลัง
รายงานวิจัยของ AIER เผยว่า “แม้ว่าธรรมชาติของเหตุการณ์หรือข่าวจะไม่สามารถอธิบายหรือบ่งบอกความผันผวนของราคา Bitcoin ได้ แต่มันก็สามารถคาดเดาได้ว่าตลาดนั้นไม่สามารถถูกปั่นให้เป็นไปตามความต้องการของคนเพียงไม่กี่คนได้”
นาย Edward Stringham หรือประธานและผู้อำนวยการของ Research and Education และนาย Jeffrey Tucker จาก Foundation for Economic Education ได้เผยให้เห็นถึงการเก็บข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องระหว่างการออกข่าวและอัตราในการเปลี่ยนแปลงราคาในรูปด้านล่าง และมีการกล่าวเป็นบางตอนว่าราคาของ Bitcoin นั้น “น่าจะสะท้อนให้เห็นถึงข่าวที่สำคัญ ๆ ใหม่ ๆ”
ตัวอย่าง
ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนก็ได้ทำการทดลองในลักษณะเดียวกันเช่นกัน โดยหากดูการเคลื่อนไหวของกราฟด้านล่างนั้นจะพบว่าภายหลังจากที่มีข่าวออกนั้น ราคาจะมีอัตราการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างผันผวนไปในทิศทางของข่าวนั้น ๆ (ขึ้นอยู่ว่าเป็นข่าวร้าย หรือดี)
ยกตัวอย่างเช่นข่าวของนาย Jamie Dimon หรือ CEO ของธนาคาร JP Morgan ที่เคยออกมากล่าวว่า Bitcoin นั้นคือสิ่งหลอกลวง ที่ส่งผลทำให้ราคาของเหรียญดังกล่าวร่วงลงอย่างรุนแรง รวมถึงข่าวการประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้าน Bitcoin Futures ของ CME และ Cboe ก่อนหน้านี้ที่ทำให้ Bitcoin ต้องพบกับ new high อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ทาง AIER ได้ทำการจำแนกลักษณะของข่าวที่มีผลต่อราคาออกเป็น 8 ประเภท ซึ่งประกอบไปด้วย BS (การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ Bitcoin), PO (ความเห็นส่วนตัว), GR (ข่าวเกี่ยวกับกฎหมายของรัฐบาล), OC (ข่าวสกุลเงินอื่น ๆ), NI (ข่าวโอกาสด้านการลงทุนใหม่ ๆ), UI (การสืบสวนสอบสวน), CS (ความปลอดภัยทางไซเบอร์) และ NF (ไม่ค้นพบอะไร)
พวกเขากล่าวสรุปว่าข่าวที่มีผลเกี่ยวกับราคามากที่สุดก็คือข่าวการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ Bitcoin อย่างเช่นการแก้ปัญหาการ scaling และการ hard fork อีกทั้งยังแนะนำนักลงทุนให้ทำการศึกษาข่าวสารให้ดีก่อนทำการเทรดอีกด้วย
The post นักวิจัยจาก AIER เผย ราคา Bitcoin เคลื่อนที่ตามข่าวสาร appeared first on Siam Blockchain.
No comments:
Post a Comment