Monday, September 25, 2017

“GoldMint ต้องการจะปฏิวัติวงการการจำนำสิ่งของ” กล่าวโดยผู้ก่อตั้ง GoldMint

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นการเล่าเรื่องในมุมมองของนาย Alex Krol หรือนักลงทุนที่มีโอกาสได้เข้าไปทำความรู้จักกับผูก่อตั้งของ GoldMint ทางสยามบล็อกเชนได้รับการติดต่อจาก GoldMint เพื่อขอให้เผยแพร่การสัมภาษณ์ดังกล่าวแล้ว

เมื่อ Dmitry Plushchevsky  ผู้สร้างแพลตฟอร์ม GoldMint ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับโปรเจคของเค้า สารภาพตามตรงว่าฉันไม่ได้สนใจมันในทันที ในทุกวันนี้ ICO ที่เป็น Scam นั้นมีมากมายเหลือเกินจนเหมือนว่ากลายเป็นเทรน แต่ว่า Dmitry Plushchevsky ก็ไม่ได้ลดความพยายาม และเมื่อฉันเข้าไปดูที่เวปไซต์ของเค้าฉันก็ไม่เค้าใจว่ามันคืออะไรซักเท่าไหร่นั้น แต่ฉันกลับไปสะดุดชื่อของ Igor Ryabenky, Yulia Zegelman และ Eduad Gurinovich ซึ่งมันอยู่ในหมวดของที่ปรึกษาและฉันคุ้นเคยกับชื่อเหล่านั้น และยังรวมถึง Mr. Martynov นักลงทุนคนแรกของ Vitaliy Buterin.

ฉันถามคนฉันรู้จักเป็นการส่วนตัวบางคนว่า พวกเค้าเป็นใคร และโปรเจคของพวกเค้าเป็นอย่างไร คนที่ฉันรู้จักกล่าวว่าพวกเค้านั้นมีความสำเร็จที่น่าประทับใจและอยู่ในจุดที่น่าสนใจมาก

ฉันเริ่มรู้สึกว่าทุกๆอย่างมันเริ่มเข้าท่ายกเว้นแค่อย่างเดียวคือ ฉันไม่เข้าใจโปรเจคนี้ ฉันจึงขอให้ Dmitry อธิบายให้ฉันฟังซัก 15 นาทีฉันอยากรู้ว่าสิ่งที่พวกเค้าทำนั้นมันเป็นยังไง พวกเค้าขายอะไร และมันจะส่งผลต่อคนกว่า 8 พันล้านคนได้อย่างไร

เราคุยกันสองชั่วโมงจนฉันเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับโปรเจคนี้ว่า

  • พวกเค้ากำลังทำในสิ่งที่น่าสนใจมาก เมื่อฉันหมายถึงในมุมมองของธุรกิจ มันเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและน่าจะก่อให้เกิดกำไรถึงแม้ว่าจะไม่มีแทคโนโลยี Blockchain
  • แต่ว่าการที่พวกเค้าใข้เทคโนโลยี Blockchain ในการยกระดับโปรเจคนี้ รวมถึงสร้างโอกาสที่ไม่เหมือนใครในการเปลี่ยนแปลงตลาดสินเชื่อขนาดเล็ก
  • พวกเค้าไม่รู้วิธีที่จะอธิบายให้คนทั่วไปเข้าว่ามันจะเกิดประโยชน์ยังไง พวกเช้าอธิบายเชิงเทคนิคมากไป

ถึงแม้ว่าฉันตัดสินใจที่จะช่วยพวกเค้าในเรื่องการสื่อให้คนทั่วไปเข้าใจ ว่าโปรเจคนี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้นำในตลาดนี้ แต่ก่อนหน้านั้นฉันอยากจะบอกสิ่งที่น่าสนใจที่สุดก่อนว่าทำไมฉันถึงสนใจโปรเจคนี้ เพื่อคลายความสงสัยแก่ทุกคน

ผู้คนมากมายที่เผชิญกัยสถานการณ์ที่ยากลำบากในการกู้เงินทุนเพื่อให้รอดผ่านช่วงที่ยากลำบาก แต่ด้วยเหตุผลมากมาย ผู้คนเหล่านี้ไม่สามรถไปที่ธนาคารและกู้เงินได้ ทำให้คนเหล่านี้เลือกที่จะไปหาตัวเลือกหรือองกรณ์ที่ให้กู้อื่นๆอย่างโรงรับจำนำหรือสถานธนานุเคราะห์ ซึ่งมันเป็นวิธีที่มีมานานและบางครั้งมันก็กลายเป็นธุรกิจที่ผิดกฏหมาย

อย่างไรก็ตามธุรกิจพวกนี้ให้โอกาสแก่ผู้คนจำนวนมากที่ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารเพราะฉะนั้นเทคโนโลยีที่ GoldMint ให้ในตลาดนั้นเป็นการปฏิวัติในระดับเดียวกับการคิดค้นโทรศัพท์ และมันทำให้ฉันสนใจที่จะสนุบสนุนโครงการนี้ในช่วงที่มันกำลังพัฒนา

ฉันเชื่อว่าสิ่งที่พวกเค้าสร้าง แต่คุณจะเชื่อหรือเปล่านั้นก็เป็นเรื่องของคุณ และด้านล่างนี้คือบทสับภาษณ์จากการสนทนาจริงๆ

วันนี้เรากำลังคุยกับ Dmitry Plushchevsky co-founder ของโปรเจค GoldMint  Dmitry ช่วยบอกเราซักเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวคุณแล้วก็ไอเดียของโปรเจคนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?

ผมทำงานในธุรกิจ IT กว่า 20 ปี ถึงแม้ว่าผมจะอายุแค่ 36 ปี ผมได้มีส่วยร่วมในการพัฒนาและบริหารโปรเจคมากมายเป็นเวลานาน จะในไม่กี่ปีสุดท้ายผมทำงานให้กับกองทุนรวม Typhoon Digital Development ซึ่งผมได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโปรเจคมากมายรวมถึง NtechLab Starttrack ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดมทุน ในปี 2015 ผมได้ศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อและพบว่าธุรกิจสถานธนานุเคราะห์ (pawn shop)นั้นดึงดูดความสนใจของผม

ผมแปลกใจว่ามันสามารถทำกำไรได้มากและเห็นช่องว่างของเทคโนโลยีในเวลาเดียวกันและคิดว่ามันจะสามารถสร้างกำไรได้เท่าไหร่

ในปี 2016 ผมรวบรวมคนที่มีประสบการณ์เชิงลึกที่ทำงานเกี่ยวกับทองคำ พวกเราได้มองเห็นปัญหาหลัก 4 อย่างที่ตลาดสถานธนานุเคราะห์กำลับประสบในทุกวันนี้และเริ่มหาวิธีแก้ปัญหา

เป้าหมายของเราคือการปฎิวัติธุรกิจสถานธนานุเคราะห์แล้วสร้างระบบสินเชื่อแบบ peer to peer  ที่คนในประเทศนึงหรือตัวกลางองกรณ์ใดๆก็ตามสามารถให้สินเชื่อแก่คนอื่นๆแม้จะอยู่คนละประเทศ

เมื่อตอนที่เราเริ่มโปรเจุนี้ปัญหาแรกที่เราต้องเผชิญคือของหลุดค้ำประกัน เราจึงแก้ปัญหานี้โดยการสร้างบริษัท “Lot-Zoloto” ซึ่งสร้างกำไรให้เราในธุรกิจนี้กว่า 10 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนในปีเดียว

แล้วหลังจากคุณเข้าไปอยู่ในธุรกิจสถานธนานุเคราะห์ คุณมีไอเดียที่จะสร้างกำไรจากธุรกิจนี้ โดยการเสริมพลังของเทคโนโลยีเข้าไปใช่มั้ย?

ถูกต้องครับ ในธุรกิจสถานธนานุเคราะห์นั้นก่อนที่เราจะเข้าไปในธุรกิจนั้นด้านเทคโนโลยีของธุรกิจนั้นถือว่าค่อนข้างขาด แน่นอนว่าคอมพิวเตอร์นั้นถูกใช้เป็นเครื่องคิดเลขในการนับว่าใครมีเงินหรือสิ่งของจำนวนเท่าไหร่

และเราได้เห็นความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีไปผนวกกับมันซึ่งจะเสริมประสิทธิภาพและกำไรในธุรกิจนี้ มันก็เป็นอย่างที่คุณพูด นั้นคือเหตุผลที่ไอเดียนี้ถูกนำมาเป็นนวัตกรรมของธุรกิจสถานธนานุเคราะห์

อย่างที่ผมได้กล่าวไป เราได้กำหนดเป้าหมายของเราคือการแก้ไขปัญหา 4 อย่างในธุรกิจสถานธนานุเคราะห์

  • มูลค่าของของหลุดค้ำประกัน
  • การจ่ายเงินผ่านการโอน
  • สินเชื่อสำหรับสถานธนานุเคราะห์
  • การสร้างมาตรฐานครบวงจร

อย่างเช่นการแก้ปัฐหาในเรื่องความรวดเร็วในการคือของค้ำประกันให้ตรงเวลาทันทีที่จ่ายสินเชื่อครบ เราจึงได้คิดค้นโมเดลธุรกิจใหม่ขึ้น

เราได้เริ่มรับของหลุดค้ำประกันจากสถานธนานุเคราะห์ต่างๆในเงื่อนไขที่แตกต่างกันและตีราคามันในวิธีที่แตกต่างกัน เรารอบคอบในกระบวนการนี้มากและสร้างบริการขึ้นมา และทำให้สถานธนานุเคราะห์กว่า 140 ร้านในประเทศเข้าร่วมกับเรา

และเราก็กำลังแก้ปัญหาถัดไปโดยเราได้สร้างโปรดัคโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยซึ่งมันก็คือ Payment system สำหรับสถานธนานุเคราะห์และบัตรพิเศษจากธนาคาร “Bogatstvo” ที่จะทำให้ลูกค้าของสถานธนานุเคราะห์สามารถขอสินเชื่อผ่านการ์ดได้โดยตรง

และในการโอนเงินที่ขอสินเชื่อเข้ามาในการ์ดนั้นจะไม่เกิดขึ้นในทันทีจะต้องรอเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถึง 2 วันนั้นหมายความว่ามันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่เพราะว่าผู้ที่นำสิ่งของไปคำประกันนั้นมักจะต้องการเงินในทันที

ทำให้เราได้นำเสนอการ์ดพิเศษ “Bogatstvo” (Mastercard) สิ่งนี้จะทำให้สถานธนานุเคราะห์สามารถโอนเงินได้ทันที คุณสามารถถอนเงินโดยไม่มีค่าธรรมเนียมจากตู้ ATM ของธนาคารใดก็ได้ในรัสเซียและสามารถจ่ายเงินผ่านการ์ดผ่านร้านค้าหรือทางออนไลน์

การ์ดนี้มีกฏหมายรองรับแล้วและตอนนี้สถานธนานุเคราะห์ต่างๆแม้กระทั่งสถานธนานุเคราะห์ขนาดใหญ่ก็กำลังพัฒนาระบบเข้าร่วมกับมัน มันเป็นนวัตกรรมที่ดีมากและไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน

จากที่ฉันเข้าใจการ์ดของคุณไม่ได้เปลี่ยนแปลงหลักการพื้นฐานของสถานธนานุเคราะห์ คุณเป็นผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านการ์ดใบนั้นให้บริการและทำให้ลูกค้าสะดวกสบายขึ้นแต่ว่ามันจำเป็นยังไงกับเจ้าของสถานธนานุเคราะห์?

คำถามนี้คือปัญหาที่ 3 ของสถานธนานุเคราะห์ ปัญหาคือสถานธนานุเคราะห์นั้นเป็นธุรกิจที่ขอเครดิตยากมากด้วยลักษณะของธุรกิจปัญหาเรื่องความโปร่งใสและปัญหาเรื่องเงินหมุนเวียนเพราะสิ่งของหลายๆอย่างยากที่จะเปลี่ยนเป็นเงินสดเพื่อบันทึกในระบบบัญชี สิ่งของที่นำมาค้ำประกันนั้นไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในทางกลับกันสถานธนานุเคราะห์กลับต้องการเครดิตเป็นอย่างยิ่ง ในรัสเซียธุรกิจสถานธนานุเคราะห์มีมูลค่ากว่าพันล้านดอลลาร์และในประเทศอื่นๆก็ไม่ด้อยไปกว่ากันในสเปนมันมีมูบลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ในอังกฤษ 6 พันล้านฟอนด์ซึ่งมันเป็นปริมาณที่มหาศาลมากแน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงเงินทุนหมุนเวียนสถานธนานุเคราะห์มีปัญหานี้มาตลอดเพราะพวกเค้าไม่สามารถหา “สินเชื่อราคาถูก” ได้

ดังนั้นการมอบสิ่งของหลุดประกันมาให้เราจะทำให้สถานธนานุเคราะห์สามารถมูลค่าหมุนเวียนได้ที่ไม่ใช่เงินสด และนำเงินทุนที่ได้จากเราไปจ่ายให้กับลูกค้าผ่านบัตรโดยในวิธีนี้พวกเรากำลังสร้าง “ระบบติดตางของที่ไม่ใช่เงินสด” (non cash track)

และตอนนี้เรากำลังจะเปิดตัวโปรดัคตัวที่ 3 ในการให้เครดิตแก่สถานธนานุเคราะห์ และมันเป็นแก่นของโปรเจค GoldMint เราคิดว่า GoldMint เป็นเหมือนระบบเครดิตของสถานธนานุเคราะห์ซึ่งเราสามารถขยายมันไปในสถานธนานุเคราะห์อื่นๆที่อยู่ในรัสเซีย สเปน จีน เราสามารถเข้าถึงตัวผู้ใช้และผู้ให้สินเชื่อโดยรับประกันดอกเบี้ยได้

ในการให้สินเชื่อแก่สถานธนานุเคราะห์ด้วยวิธีนี้เราต้องมีระบบตรวจสอบธุรกรรมของสิ่งของที่ไม่ใช่เงินสดเพราะปัญหาที่เราพบซึ่งมันเป็นคอนเซปต์ของ GoldMint

ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าสถานธนานุเคราะหืนั้นต้องการเงินทุนแต่มักจะถูกปฎิเสธเนื่องจากปราศจากกระแสเงินสดทำให้พวกเค้าต้องมองหาธุรกิจที่ให้สินเชื่อการ์ดของคุณมอบโอกาสให้พวกเค้าสามารถแสดงกระแสเงินสดในบัญชี ทำให้เค้าเป็นผู้ขอเครดิตที่มีความโปร่งใสขึ้น และในกรณีนี้ไม่ใช่แค่ธนาคารที่สามารถให้สินเชื่อได้ แต่สามารถเป็นใครก็ได้ มันกลายเป็นว่าคุณกำลังเชื่อมต่อสถานธนานุเคราะห์เข้ากับผู้คนที่พร้อมให้สินเชื่อถูกต้องไหม?

แน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่พวกเรากำลังจะทำ และปัญหาอีกอย่างนึงคือ ธนาคารผู้ออกเงินกู้มีหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบหลักประกัน เพื่อให้แน่ใจว่ามันมีอยู่จริง

และนี่คงจะเป็นคำตอบของปัญหานั้นซึ่งเป็นสิ่งที่มีคนถามมากที่สุด Custody Bot คืออะไร ”?

มันง่ายมากเลย Custody Bot เป็นกระบวนการที่จะจำแนกประเภทของสิ่งค้ำประกันอย่างอัตโนมัติ มันเหมือนตู้เซฟที่มี spectrometer ข้างใน อุปกรณ์ตัวนี้จะวิเคราะห์และตรวจสอบโลหะ ร้านค้าเพชรและสถานธนานุเคราะห์จะใช้ scpectrometer ในร้านของพวกเขา และ CustyBot มีระบบขนส่งสิ่งของจากถาดรับไปยัง Spectrometer ได้ด้วยตัวเอง

หลังจากการประเมินผลโดย spectrometer (ซึ่งมีความแม่นยำอยู่ที่ 70% เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะวิเคราะห์ส่วนประกอบหลักของสิ่งของชิ้นนั้น ) มันถูกส่งไปยังระบบวัดโดยสมดุลของน้ำโดยใช้หลักการ Archimedes ว่ามันมีความหนาแน่นเท่าไหร่ (โดยการชั่งน้ำหนักต่อเนื่องในอากาศและของเหลว)

หลังจากวัดความหนาแน่นและประเมินส่วนประกอบแล้ว แม้การตรวจสอบจะเป็นการลดข้อผิดพลาด หลังตากนั้นมันจะถูกเก็บไว้ในกล่องที่ทำมาพิเศษ

การวิเคราะห์และคำนวนทั้งหมดจะทำโดยคอมพิวเตอร์ที่จะเข้ารหัสน้ำหนักและข้อมู,ต่างๆและส่งไปยัง Blockchain ถ้าหลังจากนั้นผู้ค้าต้องการคืนของให้กับลูกค้า เขาต้องใส่เงินเข้าไปใน Custody bot ที่มีมูลค่าเท่ากับตอนที่วิเคราะห์ ระบบจะคืนสิ่งของค้ำประกันไปให้กับผู้ค้า และส่งข้อมูลไปให้ล๊อคเกอร์เพื่ออัพเดทข้อมูลทองคำที่เหลือ

ฉันเข้าใจละ คุณแบ่งฟังชั่นในที่ใช้ในการยอมรับสิ่งของกับฟังชั่นในการเก็บออกจากกัน ในขั้นตอนการประเมินนั้นมันเกิดในขั้นตอนที่ยอมรับสิ่งของหรือเปล่า?

ระบบการประเมินหลักนั้นสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญ CustodyBot ถูกสร้างโดย AirLab หลังจากนั้นมันจะส่งข้อมูลไปยัง Blockchain

ทำไม GoldMint ถึงใช้ blockchain?

เพราะ Blockchain นั้นแก้ปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือในระบบได้

คุณจะรับประกันยังไงว่านักลงทุนจะได้ผลตอบแทนของการลงทุน?

ในกรณีนี้ผู้ที่จะรับประกันผลตอบแทนของเงินทุนคือ CustodyBot ที่เป็นหุ่นยนที่ทำงานอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับระบบ Decentralized

ฟงัชั่นสองอย่างนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะมีโอกาสผิดพลาด สำหรับเรามันก็เหมือนกับการลดความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโกง

การที่มีทองคำอยู่ใน CustodyBot นั้นเป็นการรับประกันผลตอบแทนของเงินทุน ไม่ว่าเจ้าของจะกลัะบมาไถ่ของคืนหรือว่าขายมันไปในรูปแบบสิ่งของหลุดประกันในสองกรณีนี้ เงินทุนจะกลับไปยังพวกเราและผู้ลงทุน

แผนของคุณในอนาคตคืออะไร?

ในขั้นตอนถัดไป CustodyBot จะถูกใช้ในการจัดการร้านค้าปลีกตามถนน ยุคใหม่ของสถานธนานุเคราะห์จะเป็นเหมือนตู้กดน้ำตามปั้มน้ำมัน และต่อไปจะเป็นการติดตั้งตามบ้านทำให้คุณสามารถตรวจสอบมูลค่าของทองคำในขณะที่อยู่ที่บ้านได้

นั้นหมายความว่าฉันสามารถนำสิ่งของไปค้ำประกันได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน?

ถูกต้องแล้ว ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์มีทองคำกว่า 60,000 ตันถูกขุดขึ้นมาแต่ทองคำที่มีทั้งหมดในธนาคารและหน่วยงานต่างๆในแต่ละประเทศนั้นมีเพียง 30,000 ตันนั้นหมายความว่าทองคำ 30,000 ตันที่เหลือนั้นถูกกระจายไปในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะแหวนเครื่องประดับถูกฝังไว้ในดินอยู่ในทะเล และนั้นหมายความว่าทองเหล่านั้นจะไม่ถูกนำมาใช้เลยถ้าเทคโนโลยีไม่สามารถนำทองคำ 30,000 ตันนั้นมาสร้างมูลค่าและด้วยทองคำปริมาณขนาดนี้ผมคิดว่าทุกคนคงเห็นมูลค่าของมัน

กลับมาที่หัวข้อของเราซักหน่อยทำไมคุณถึงใช้เทคโนโลยี Blockchain?

ในตอนแรกเราต้อง พวกเราต้องการหน่วยมูลค่าที่จะใช้ขนย้ายมูลค่าจากคนนึงไปสู่อีกคนนึงและประเมินมูลค่าของมัน และเราไม่ได้ต้องการใช้ค่าเงินดอลลาร์ เพราะเราไม่มั่นใจในมัน ทองคำ 1 ออนซ์จึงเป็นตัวเลือกของเราและเราเลือกเงินดิจิตอลที่มีมูลค่าเท่ากับมัน

ในตอนที่เราพูดคุยถึงมันและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทาง Blockchain พวกเค้าทำให้เราเห็นถึงปัญหาของตลาดเงินดิจิตอลนั้นคือ สกุลเงินที่ปลอดภัยมั่นคง

มากไปกว่านั้นในตอนนี้มันมีปัญหาในเรื่องการแลกเปลี่ยนเงินสกุลปกติกับเงินปกติเพราะมันมีเงินดิจิตอลมากมายและแต่ละอย่างนั้น พวกคนที่ซื้อต้องใช้ข้อมูลการตัดสินใจทางบัญชีเกี่ยวกับผลลัพท์ที่เป็นไปได้

วิธีแก้ปัญหานี้คือการสร้างเหรียญมีที่ความมั่นคง เพราะมันจะง่ายต่อธนาคารที่จะใช้เงินดินิจตอลแค่สกุลเดียวเพื่อให้พวกเค้าไม่ต้องกังวล และหลังจากเปลี่ยนจากเงินดอลลาร์มาเป็น GOLD ที่เป็นเงินดิจิตอลนั้นคุณสามารถนำมันไปแลกกับเงินดิจิตอลสกุลอื่นที่ตลาดแลกเปลี่ยนได้

เพราะฉะนั้นโปรเจคของเราจึงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเงินสกุลปกติและเงินดิจิตอลที่จะทำให้ธนาคารสามารถทำงานร่วมกับเงินดิจิตอลได้

ประโยชน์ของ GoldMint

  • ไว้ Hedge ความเสี่ยงเพราะมีความมั่นคง
  • เป็นระบบ Blockchain สำหรับ payment ที่ทำได้รวดเร็ว
  • เป็นสะพานระหว่าเงินดิจิตอลและเงินสกุลปกติ
  • การให้สินเชื่อแบบ peer to peer

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ในโปรเจคของเราทำให้เรามีโอกาสมาเริ่มต้นในโลกของเงินดิจิตอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ความเชื่อมั่นจากในรัสเซีย

ช่วยบอกฉันหน่อยว่าโทเคนนี้ทำอะไรได้บ้างมันใช้ยังไง จะมั่นใจในสภาพคล่องได้ยังไง?

ระบบของเรามีโทเคนสองแบบโดย GOLD จะเป็นเหรียญที่รองรับโดยทองคำโดยเราจะขายมันโดยแลกกับเงินสกุลปกติเท่านั้น และการที่เราสร้าง Blockchain ของตัวเองเราจึงต้องการกำลังประมวลผล

และในการจูงใจนักขุดเพื่อประมวลผลให้เรา เราจึงมีโทเคนแบบที่สองคือ MNT ที่มีกว่า 10 ล้านโทนเคนที่เราขายออกไปเพื่อใช้ในการประมวล ธุรกรรมทั้งหมดของเราจะถูกเก็บในบล็อคและปิดทุกๆ 4 วินาทีเท่ากับว่ามันสามารถทำธุรกรรมได้ 100000 ธุรกรรมใน 1 วินาทีและแน่นอนบล็อคพวกนี้จะต้องถูกยืนยันโดยบางคน

ในระบบ proof of chain นี้นักขุดจะต้องแข่งกันประมวลผลซึ่งหมายความว่ามันต้องใช้พลังประมวลผลซึ่งเรามีทางเลือกที่ต่างกัน MNT นั้นจะเป็นตัวรับประกันว่าผู้ที่ถือจะได้ค่าธรรมเนียมจากการยืนยันธุรกรรม โดยคิดเป็นอัตราส่วน MNT จาก MNT ทั้งหมด

ถ้างั้นหมายความว่าคนที่ซื้อ MNT จะมีสิทธิที่จะได้รางวัลจากการยืนยันธุรกรรม เหมือนรายได้ประจำอย่างนั้นใช่มั้ย?

ใช่ แต่จะเป็นก็ต่อเมื่อเค้ามอบบริการให้เราโดยการตรวจสอบธุรกรรมบนคอมพิวเตอร์ของเค้าผ่านอินเทอร์เนต

ทุกวันนี้คอนเซปต์ของนักขุดนั้นถูกลดบทบาทลง ดังนั้นผมจึงขอบอกว่าคุณจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ก็ต่อเมื่อต้องการ Blockchain wallet เท่านั้น

ค่าธรรมเนียมของธุรกรรมคือ 0.3% โดยนักขุดที่ยืนยันธุรกรรมจะได้ค่าคอมมิชชั่น 75% และ 25% ที่เหลือนั้น 12.5% จะเป็นรายได้ให้กับเราและ 12.5% 0ะถูกนำไปบริจาคการกุศล

แล้วโทเคน GOLD หละ

เมื่อคนซื้อ GOLD ด้วยเงินปกติเงินทั้งหมดจะถูกแลกเป็นทองคำ

แล้วธุรกรรมจะมาจากที่ไหนได้บ้าง มาจากสถานธนานุเคราะห์ต่างๆหรือเปล่า

ไม่ ธุรกรรมจะมาจาก Payment ที่เกิดขึ้นใน Blockchain

มันจริงหรือเปล่าที่การขายโทเคน GOLD จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเงินทุนในสถานธนานุเคราะห์?

เป้าหมายหลักของโทเคน GOLD ไม่ใช่การให้เงินทุนแก่สถานธนานุเคราะห์ แต่ว่าคนที่ถือโทเคน GOLD สามารถเพิ่มมูลค่ามันได้ โดยการส่งมันมาให้เราเพื่อทำ Trust management ในการขอเงินทุน

แล้วโทเคนตัวไหนที่คุณขายใน ICO ในวันที่ 20 กันยายน 2017?

แค่ MNT เท่านั้นเราตั้งใจที่จะสร้าง blockchain และโทเคน GOLD จะถูกเปิดตัวในช่วงแรกของปี 2018โทเคน GOLD นี้จะมีความมั่นคงและผูกกับค่าของทองคำทำให้ค่าของมันจะไม่ผันผวน

ในส่วนของ MNT นั้นจะถูกใช้ในการยืนยันธุรกรรมของ GOLD ด้วยเช่นกันทำให้คุณมีโอกาสในการได้รางวัลจากการยืนยันทำธุรกรรม ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2017 เราได้ทำการเปิดขายระยะแรกและขายได้กว่า 6 แสนดอลลาร์ใน 36 ชั่วโมง

และในบรรดาที่ปรึกษาของเรานั้นเป็นที่รู้จักดีในแวดวงการเงินระดับโลกและในวงการกองทุน เราตั้งใจจะขาย MNT จำนวน 7 ล้านโทเคนที่ราคา 7 ดอลลาร์ต่อโทเคนโดยวันนี้เรามีผู้สนใจกว่า 3,000 คนที่ลงทุนใน ICO ของเราจากทั่วโลก

ปัจจุบัน GoldMint นั้นได้ขาย ICO รอบแรกจบไปแล้ว และรอบที่สองกำลังเริ่มขึ้นแล้ว โดยผู้ที่สนใจสามารถที่จะดูได้ที่หน้าเว็บหลักของ GoldMint

The post “GoldMint ต้องการจะปฏิวัติวงการการจำนำสิ่งของ” กล่าวโดยผู้ก่อตั้ง GoldMint appeared first on Siam Blockchain.

No comments:

Post a Comment