เรื่องนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องแบนการค้าขาย Bitcoin ในจีนทั้งประเทศ ซึ่งในขณะนี้ดูเหมือนว่า นักลงทุน Bitcoin และเหรียญ Cryptocurrency อื่นๆในจีนกำลังจะย้ายไปลงทุนในประเทศญี่ปุ่นแทน
โดยสืบเนื่องมาจากที่ “OKCoin” และ “Huobi” สองในผู้ให้บริการเว็บกระดานซื้อขาย Bitcoin ยักษ์ใหญ่ของประเทศจีนโดนสั่งปิดการซื้อขาย Bitcoin และให้บริการได้ถึงสิ้นเดือนตุลาคมนั้น นั่นหมายถึงนักลงทุนในจีน มีเวลาอีกหนึ่งเดือนเศษในการถอนเงินและเหรียญของพวกเขาออกมา และยังต้องหาที่เทรดใหม่อีกด้วย
ทว่าพอมีข่าวออกมา นักเทรดเหรียญคริปโตชาวจีนก็ไม่หยุดนิ่ง และเริ่มแสวงหาที่เว็บเทรดใหม่ในประเทศใกล้เคียงทันที ซึ่งก็เป็นไปตามที่หลายๆคนคาดการณ์ไว้ว่าคงจะหนีไม่พ้น เกาหลีใต้และ ญี่ปุ่น สองในตลาดเหรียญ cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง
ก่อนที่จะมีการแบนซื้อขายในประเทศจีนนั้น ตลาดในจีนคิดเป็น 10 ใน 13 เปอร์เซ็นต์ในการเทรดทั่วโลก ในช่วงเวลาที่กำลังรายงานอยู่นี้ เกาหลีใต้เอาชนะตลาดซื้อขาย Bitcoin ในประเทศจีนในแง่ของปริมาณการซื้อขาย Bitcoin จนกลายเป็นตลาดแลกเปลี่ยน Bitcoin ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
Today, South Korea surpassed China in #bitcoin trading volume. South Korea’s Bithumb processes more volume than Bitfinex + Bittrex. http://pic.twitter.com/10fiT4YzJg
— Joseph Young (@iamjosephyoung) September 21, 2017
ณ ปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดการซื้อขาย Bitcoin ในจีนมีน้อยกว่า 5% ของการค้าขายทั่วโลกและที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ ในเวลา 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดซื้อขาย Bitcoin ในจีนที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย
ถึงแม้จะมีผลกระทบในระยะสั้นต่อการปราบปรามการแลกเปลี่ยนการซื้อขาย Bitcoin ในประเทศจีน แต่ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนรวมไปถึงนักลงทุนมหาเศรษฐีอย่าง Tim Draper กล่าวว่า การที่จีนได้ออกมาจากตลาดการซื้อขาย Bitcoin ทั่วโลกนั้นเป็นผลดี เนื่องจากว่าต่อไปนี้รัฐบาลจีนจะไม่สามารถสร้างอิทธิพลต่อตลาด Cryptocurrency ทั่วโลกได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนนั้นได้ใช้ไพ่ใบสุดท้ายในการห้ามซื้อขาย Bitcoin ทั่วประเทศไปแล้ว และในตอนนี้พวกเขาไม่เหลืออาวุธอะไรในคลังที่จะมาปั่นราคาอีกแล้ว และนั่นถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับอนาคตในการพัฒนาของราคาและความมั่นคงของ Bitcoin และอีกไม่กี่เดือนตลาดของ Bitcoin จะแสดงถึงความมีเสถียรภาพและมีความเป็น Decentralized ที่มากขึ้น Draper กล่าวว่า:
“มะเร็งของวงการ Bitcoin กำลังจะตายไปแล้ว และผู้ที่ยังมีความศรัทธาใน cryptocurrency จะได้รับผลตอบแทน”
ยิ่งไปกว่านั้น การย้ายไป เทรดในประเทศเกาหลีหรือญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่ดีต่อตลาดในระยะยาว เพราะว่า สองประเทศนั้นมีการดูแลที่มีประสิทธิภาพ สำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะ และต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ออกกฏหมายที่จะยกเลิกภาษีผู้บริโภค 8% ในการใช้จ่ายด้วย Bitcoin และยังทำให้ Bitcoin สามารถใช้จ่ายอย่างถูกกฏหมายได้อีกด้วย
ภายหลังจากนั้น กลุ่มบริษัทการเงินทางด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ก็ได้เริ่มเกิดขึ้นมาในประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองตลาด การซื้อขาย Bitcoin บริษัท “GMO” หรือผู้ให้บริการด้าน เทคโนโลยีรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายสำหรับนักลงทุนและได้จัดตั้งสายการผลิตเพื่อสร้างเครื่องขุด Bitcoin (ASIC Miner) และอุปกรณ์การขุดเหมืองต่างๆ อีกด้วย
มีรายงานมาว่าในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ จำนวนผู้ลงทุนคงในประเทศญี่ปุ่นและ ประเทศเกาหลีใต้ จะพุ่งสูงขึ้นและผลักดันราคาของ Bitcoin ให้สูงขึ้นตาม รวมถึงปริมาณการซื้อขายของตลาด Bitcoin ก็จะสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาด Bitcoin ทั่วโลก และรวมถึงการปิดตัวไปของตลาดแลกเปลี่ยน Bitcoin ในประเทศจีน
ภาพจาก totalbitcoin
The post ทำไมนักเทรด Bitcoin ในประเทศจีนถึงย้ายไปลงทุนในประเทศญี่ปุ่น appeared first on Siam Blockchain.
No comments:
Post a Comment