Monday, November 17, 2014

สัญญาณที่บอกถึงอาการเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก

เดือนสุดท้ายของปีแบบนี้
พนักงานส่วนใหญ่ก็มักจะมองว่าเป็นเดือนแห่งการพักผ่อนแล้ว
เพราะเข้าสู่การส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่
พนักงานหลายคนก็เริ่มวางแผนในการเที่ยว พักผ่อนกัน
แต่ก็ยังมีพนักงานอีกบางกลุ่มที่ยังต้องเร่งยอด ต้องพยายามปิดงานให้เสร็จ
จนบางครั้งทำให้ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ


ยิ่งไปกว่านั้นพนักงานบางคน ทำงานทุ่มเทให้กับองค์กรกันมาตลอดทั้งปี
โดยที่ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเลยสักนิด พอถามว่าไม่เหนื่อยหรอ
บางคนก็ตอบว่า เหนื่อยแต่ก็สนุกกับการทำงาน
มันก็เลยทำให้ไม่ค่อยเหนื่อยมากนัก


เราลองมาดูว่าเรามีสัญญาณเหล่านี้เกิดขึ้นกับตนเองบ้างหรือไม่
ถ้ามีอย่างน้อย 2 ข้อ ก็แสดงว่า เราทำงานเหนื่อยจนเกินไปแล้ว
ต้องรีบหาเวลาพักผ่อน
และปรับร่ายการให้เข้าสู่ภาวะปกติก่อนที่จะเริ่มต้นปีใหม่


  • เริ่มสมาธิสั้นลง
    ปกติคนที่ทำงานขยันขันแข็งนั้นจะมีสมาธิจดจ่อกับงานที่ทำได้เป็นชั่วโมง
    โดยที่ไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าคนที่เริ่มทำงานได้ไม่นาน ก็เลิก
    หรือเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น แล้วก็เปลี่ยนอีก โดยที่ไม่มีอะไรสำเร็จสักอย่าง
    นั่นเป็นสัญญาณแรกที่บอกเราว่า เราเหนื่อยเกินไปแล้ว
    เราอาจจะทำงานมากเกินไป มีภาระหน้าที่ที่มากเกินไป
    จนทำให้เราไม่สามารถที่จะจดจ่อทำงานอย่างเดียวได้นานๆ
  • เริ่มรู้สึกผิดกับงานที่ไม่สำเร็จมากขึ้น ถ้า
    เราเริ่มรู้สึกว่างานที่เรารับผิดชอบนั้นเริ่มไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
    ทั้งๆ ที่เราก็ทุ่มเทอย่างจริงจัง
    นั่นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เราเริ่มเหนื่อยกับการทำงาน เหนื่อยมากๆ
    เข้าสมาธิก็หดหาย ไม่จดจ่อ ผลงานที่เคยดี ก็เริ่มไม่ดี เคยเสร็จทันเวลา
    ก็เริ่มไม่ทันเวลามากขึ้น จนทำให้เรารู้สึกว่าทำไมผลงานของเรามันแย่ลง
    ทั้งๆ ที่เราเองก็พยายามทำเหมือนเดิม
  • อารมณ์ปรวนแปร ถ้าเริ่มมี
    อาการอารมณ์ปรวนแปรมากขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย
    หรือใครพูดอะไรผิดหูหน่อยก็หงุดหงิดใส่ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
    นี่ก็เป็นอีกสัญญาณว่าเรากำลังทำงานเหนื่อยเกินไปแล้วเช่นกัน
  • ปลีกตัว ไม่อยากสุงสิงกับใคร บาง
    คนเคยเฮฮากับเพื่อนร่วมงาน กับลูกน้องของตนเอง
    แต่กลับกลายเป็นว่าอยากอยู่คนเดียว ไม่อยากคุยกับใคร เวลามีใครมาคุยด้วย
    ก็แสดงอาการรังเกียจและไม่อยากคุยด้วย
    แบบนี้ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าเรากำลังเหนื่อยกับการทำงานมากเกินไป
  • หัวถึงหมอนหลับทันที
    ปกติคนที่ไม่เหนื่อยมาก จะต้องใช้เวลาในการนอนจากที่หัวถึงหมอนก็ประมาณ 10
    นาทีก็จะเริ่มหลับ แต่ถ้าเราเป็นประเภทพอล้มตัวลงนอนปุ๊ป ก็หลับปั๊บเลย
    นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำงานเหนื่อยจนเกินไป
    เลยทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
  • เริ่มเจ็บป่วยมากขึ้น คน
    ที่ทำงานเหนื่อยจนเกินไป จะทำให้พักผ่อนน้อย กินน้อย
    บางคนแทบไม่ได้กินข้าวเลยสักมื้อในหนึ่งวัน บางคนอาหารเช้าไม่เคยได้ทานเลย
    เพราะเหนื่อย ตอนตื่นสาย ไม่อยากลุกบ้าง พอลุกได้ก็สายแล้วต้องรีบไปทำงาน
    ก็เลยไม่ได้ทานอาหารเช้า ก็ยิ่งทำให้ร่างกายเราอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ
    สุดท้ายก็คือ จะมีอาการเจ็บป่วยเข้ามาแทรก แบบเรื้อรังมากขึ้น
    ไม่ว่าจะเป็นการปวดหัวไมเกรน อาการปวดท้อง ปวดหลัง ปวดตัว ปวดตา คลื่นไส้
    อาเจียน มึน ฯลฯ อาการเหล่านี้ถ้าเป็นประจำทุกวัน
    โดยที่เดิมทีไม่เคยเป็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย นี่ก็แปลง่ายๆ
    ว่าเราทำงานหนักเกินไปแล้ว
อาการเหล่านี้ถ้ามีอย่างน้อย 2 ข้อ ก็ต้องเริ่มระวังตนเองได้แล้วครับ
ต้องปรับวิธีการทำงาน ปรับวิธีการใช้ชีวิตใหม่บ้าง ถ้างานเยอะจริงๆ
ก็คงต้องแบ่งเวลาให้ดี และพยายามหาเวลาพักผ่อน นอนหลับให้พอ
อีกทั้งพยายามหาเทคนิคให้ร่างการได้ออกกำลังกายบ้าง
โดยอาจจะไม่ต้องไปเข้าฟิตเนส
แต่อาศัยกิจกรรมประจำวันของเราเพื่อให้ร่างกายได้ออกแรงบ้าง เช่น
การเดินเร็ว การเดินขึ้นบันไดบ้าง การขยับแข้งขยับขาระหว่างการทำงานบ้าง
ฯลฯ


เพราะถ้าเราไม่ดูแลตัวเองให้ดี
มันจะยิ่งทำให้เราไม่สามารถทำงานที่เรารักได้ดี
เพราะร่างกายเราอาจจะทนไม่ได้ขึ้นมาสักวันหนึ่ง
แล้วคราวนี้เราจะไม่สามารถทำงานได้อีกเลย


อย่าให้เงินที่เราหามาได้ มาใช้รักษาตัวเองในเพราะการทำงานหนักจนเกินไปเลยครับ มันไม่คุ้มเลยจริงๆ




บทความโดย อาจารย์ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร

No comments:

Post a Comment