
อ่าน
แล้วซึ้งมากค่ะ น้ำตาจะไหล.... อายมากหรือ ที่ พ่อจน ? 
วันนี้เลิกงานเร็วเลยพาพี่นุ่มไปซื้อของใช้ที่ห้างแห่งหนึ่ง 
รอต่อแถวจ่ายตังค์นานเลย เจ้านุ่มก็เริ่ม งอแงๆ ง่วงนอน 
สังเกตุว่าคิวด้านหน้าเรามากันเป็นครอบครัว 
มีพ่อแม่ลูกสาววัยประมาณเจ้านุ่ม แล้ว ก็ผู้ชายสูงอายุคนหนึ่ง 
ที่หนูน้อยเรียกว่า "ปู่" คุยกันยิ้มแย้มแจ่มใสดี 
ซื้อของใช้ล้นตระกร้าเชียวค่ะ 
พอแคชเชียร์คิดเงินของครอบครัวนี้จนเสร็จได้ยินคร่าวๆว่า 
"ทั้งหมดพัน(กว่าๆ)บาทค่ะ...." ผู้ เป็น"ปู่ " 
เป็นคนเปิดกระเป๋าสตางค์ใบเก่าๆ จะจ่ายเงิน 
พร้อมทำท่าอ้ำอึ้ง 
มีลูกชายลูกสะใภ้จ้อง ตาเขม็ง หุบยิ้มทันที " ว่าไงพ่อ จ่ายเค้าไปสิ" 
ลูกชายบอก คุณปู่ยังทำท่าอ้ำอึ้ง "ไหน ดูหน่อย มีตังค์เท่าไหร่" 
คุณปู่ยื่นกระเป๋าตังค์ให้ดูข้างใน " อ้าว ไหนว่ามีตังค์เยอะไง 
แล้วแบบนี้จะชวนมาซื้อของทำไม ไม่มีตังค์จ่ายก็ไม่บอก อายเค้าจริงๆ " 
ลูกชายลูกสะใภ้พากันมองคุณปู่ด้วยสายตาที่เหมือนดูถูก...รำคาญ 
ในที่สุดเค้าก็พากันทำสิ่งที่เราไม่อยากจะเชื่อสายตา 
คืออุ้มลูกเดินหนีไปเลย พร้อมกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง 
ไม่สนใจลูกสาวที่ร้องว่า "ปู่ๆๆๆ ปู่มาด้วย" คุณปู่ยืน
คอตก 
หน้าเศร้าอยู่หน้าแคชเชียร์ พอเด็กถามว่าจะเอายังไง 
คุณปู่เปิดกระเป๋าตังค์ให้เด็กดู แล้วบอกว่าให้คิดเงินตามนี้ 
ได้ของเท่าไหร่เท่านั้น (เด็กนับแล้วมีแปดร้อยบาทค่ะ) 
ระหว่างรอแคชเชียร์คิดเงินใหม่ ได้ยินคุณปู่เล่าว่า 
แกบ้านอยู่ต่างอำเภอห่างไปเป็นร้อยกิโล ลูกหลาน ไม่ไปหานานแล้ว 
แกจึงตัดสินใจรวบรวมเงินทั้งหมดที่มีนั่งรถเข้ามาเยี่ยมลูกหลานในเมือง 
แล้วชวน ออกมาซื้อของ ลูกแกก็ไม่ถามสักคำว่าเงินมีเท่าไหร่ หยิบของเอาๆ 
แกก็ไม่เคยรู้ราคาของ เพราะอยู่ บ้านนอกก็ซื้อร้านของชำทีห้าบาทสิบ
บาท 
ใครจะจะรู้ว่าของในห้างใหญ่เค้าซื้อกันทีละเป็นพัน 
เราจ่ายเสร็จเห็นคุณปู่ยังเดินเคว้งอยู่แถวๆนั้น ก็เลยถามแกว่าจะกลับยังไง 
แกบอกว่าพอขึ้นรถกลับ เป็น ( อ้าว แล้วตังค์ล่ะ 
เมื่อกี้เห็นจ่ายไปหมดแล้วนี่นา ) แต่ก็ยังลังเลอยู่ 
กลัวลูกกลับมาตามหาแล้ว ไม่เจอ มือถือก็ไม่รู้เบอร์ 
เลยตัดสินใจพาคุณปู่ไปที่แผนกประชาสัมพันธ์ประกาศหาลูกค่ะ 
จากนั้นเราบอกให้รอสักพัก ถ้าลูกไม่มา จริงๆ ให้ไปขึ้นรถที่คิวรถ( 
ฝากเด็กที่ปชส.ค่ะ ว่าให้ย้ำคุณปู่อีกที) พร้อมกับให้เงินแกเป็นค่ารถไว้ค่ะ
 จริงๆ อยากรอดูสักพัก แต่เจ้า
 นุ่มไม่ไหวแล้วค่ะ งอแงเหลือเกิน 
คุณปู่น้ำตาคลอบอกเราว่า "มันคงไม่ทิ้งปู่จริงๆ หรอกนะ 
นี่ก็ได้ของไปเยอะเหมือนกันถึงจะซื้อได้ไม่หมด ก็เถอะ 
นี่มันไม่เคยกลับไปหาปูเลย ก็เพราะปู่มันจน ไม่มีสมบัติอะไรให้ " 
เราปลอบใจแกไปบอกว่า เดี๋ยวเค้าคงกลับมาน่ะ คงเดินไปดูอย่างอื่นก่อน 
เดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ 
หันหลังกลับไปมองเห็นคุณปู่ยังยืนคอตกที่เดิม ในใจคิดวน เวียนตลอด
เวลา ....
 นี่เค้าทำแบบนี้กับพ่อตัวเองได้ยังไงนะ ... ... พ่อไม่มีตังค์พอเนี่ย 
มันผิดด้วยหรือ? เค้าไม่รู้หรือไงว่า 
เงินเท่านี้อาจจะเป็นเงินที่คุณปู่เก็บมาทั้ง ชีวิตก็ได้ 
(คนชนบทจะไปหาเงินจากไหนล่ะ?) ... 
...แล้วเค้าจะสอนลูกให้กตัญญูต่อพ่อแม่ได้อย่างไร 
ก็ทำพฤติกรรมแบบนี้กับพ่อตัวเองให้ลูกเห็น.... จริงอยู่ 
พื้นฐานครอบครัวนี้อาจจะมีอะไรลึกซึ้งมากกว่านี้ แต่เป็นเรา 
เราคงไม่มีวันทอดทิ้งพ่อให้ได้รับ 
ความเจ็บปวดอับอายจากการที่ไม่มีเงินซื้อของให้ลูกหลานได้พอแบบนี้หรอก 
เป็นเรา เราคงบอกพ่อว่า " ไม่
เป็นไรหรอกค่ะพ่อ กลับบ้านเราเถอะ " เครดิต :Google+ 

No comments:
Post a Comment