Saturday, January 25, 2014

วิธีหลุดจากสนามงานประจำ…!!!


ขอออกตัวก่อนเลยนะครับ ว่าสิทธิอย่างพิเศษอย่างหนึ่งที่คนทุกคนได้ในยุคสมัยนี้ คือสิทธิในการออกแบบชีวิตตัวเอง ไม่มียุคไหนที่จะให้อิสระแก่เราเท่ากับในยุคนี้อีกแล้ว ตั้งแต่เทคโนโลยีที่ทำให้ระยะของคนเราแทบจะไม่มีอะไรขวางกั้น มันทำให้เราได้รับพลังอำนาจดีๆในการจัดการชีวิตตัวเองได้อย่างมหาศาล และรู้ไหมครับ มันน่าเสียดายมากๆ ถ้าเราเกิดมาในยุคที่พระเจ้าประทานขุมอำนาจขนาดนี้ แต่เราไม่ยอมใช้มันเพราะความกลัว

บทความนี้ ขออุทิศให้แก่บุรุษ สตรี แท้เทียม พนักงานประจำ ที่ต้องการอยากจะเป็นนายตัวเอง ต้องการเป็นผู้ออกแบบชีวิตตัวเอง และต้องการเป็นอิสระจากเส้นทางตารางเวลาที่ผู้อื่นกำหนดให้เรา ใช่ ผมกำลังพูดถึงคนที่เบื่อหน่าย สุดทนกับอาชีพขายเวลาแลกเงินเดือนแล้วอยากออกไปพบอิสรภาพจากงานประจำ เป็นการออกแบบชีวิตตัวเองอย่างแท้จริง
freedom_by_gyaban-d4y03ct[1]ขอบคุณรูปภากจาก http://gyaban.deviantart.com/
ยอมรับเสียเถอะครับ ชีวิตทำงานนั้นไม่ง่าย ถึงแม้เรื่องของการพัฒนาตัวเอง การทำงานออกมาให้ดี จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ แต่การทำเพียงเท่านี้ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าอนาคตของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปใน ทางที่ดีขึ้น อย่างน้อยให้คุณลองถามคนที่แก่กว่าคุณซัก 5 ปีขึ้นไปที่มีสถานะใกล้เคียงกับคุณ คุณจะค้นพบว่าการทำงานรับใช้ความฝันคนอื่นมันทำให้เราสูญเสียอะไรไปบ้าง คุณต้องทบทวนด้วยว่าการประสบความสำเร็จที่คุณตั้งเป้าไว้ คุณได้เงิน ได้ประสบการณ์จากการทำงาน แต่อะไรเป็นสิ่งที่คุณต้องสูญเสียไประหว่างทางของงานประจำ

ข้อเสีย ข้อจำกัดที่ผมค้นพบ

  • รายได้ติดเพดานเงินเดือน โอกาสได้มากกว่านั้น ยากมากๆ
  • ทำงานส่งเงินให้เจ้านาย แล้วเจ้านายแบ่งเงินส่วนหนึ่งที่เราทำให้เขามาจ่ายเรา
  • เงินเดือนขึ้นปีละ 3% ตามกฏหมาย ในขณะที่เงินเฟ้อขึ้นปีละ 4%
  • เงินเดือนขึ้นเป็นรายปี ไม่ใช่รายเดือน (ยกเว้นงานได้ค่าคอมมิชชั่น)
  • ต้องบังคับให้ตัวเองอยู่ในออฟฟิตทั้งวัน ทั้งๆที่บางทีไม่รู้จะทำอะไร
  • เคลียร์งานหมดตั้งแต่บ่าย 2 แต่กลับบ้านไม่ได้เพราะเขาซื้อชีวิตเราจนถึง 6 โมงเย็น
  • เวลาอยู่กับคนที่ัรักน้อยมาก พ่อแม่เราไม่ได้เป็นอมตะนะครับ
  • เสียสุขภาพ มีมนุษย์เงินเดือนกี่เปอร์เซ็นที่บริหารเวลาออกกำลังกายได้
  • เป็นหนี้ เพราะมนุษย์เงินเดือนหาความบันเทิงนอกเวลางานได้จำกัด ส่วนใหญ่ช็อปปิ้งบำบัด (มีมนุษย์เงินเดือนกี่คนไม่เป็นหนี้)
  • เสาร์ อาทิตย์ วันหยุด คนแย่งกันเที่ยวจนไม่มีที่ให้เราเที่ยวแบบชิวๆ อย่างน้อยจะกินชาบูชิวันเสาร์อาทิตย์ก็ต้องรอเป็นชั่วโมง
  • ตื่นเช้าให้ตายก็ถูกหักเงิน ถ้ารถติดมากๆจนทำให้คุณไปสาย (จากสวนสยามไปลาดพร้าว ผมเคยติด 4 ชั่วโมงในตอนเช้า พอบอกเจ้านายว่ารถติดมาก แต่ผมตื่นเช้าเหมือนเดิมนะ สรุปคือถูกหักเงินทั้งๆที่งานเท่าเดิม เสร็จเหมือนเดิม และไม่ใช่ความผิดเรา)
นี่แค่ตัวอย่างข้อเสียที่ผมเจอเล็กน้อย
ผมเชื่อว่าพนักงานกินเงินเดือนร้อยละเก้าสิบ เกิดคำถามต่อตัวเองอย่างแน่นอน ว่าตกลงแล้ว เรากำลังทำอะไรอยู่ ในยุคที่อินเตอร์มีอยู่ทั่วไปตามอากาศ ความคิดถึงสามารถส่งผ่านสัญญาณ 4g เราสามารถดูสถานที่ต่างๆในโลกผ่าน Google Earth ได้ แต่ทำไม เราถึงออกจากคอกทำงานเล็กๆของเราไปตามเส้นทางที่เราต้องการไม่ได้ ทำไมเราเลือกที่จะทำตามความฝันเราไม่ได้ ทำไมเราถึงใช้เวลา 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นอยู่กับคนที่เรารักไม่ได้ อะไรกักขังเรา ทำไมเราใช้ช่วงเวลานั้นทำอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากทำงาน…!!!
คำตอบเดียวคือเพราะความกลัว หัวของเราเต็มไปด้วยความกลัวที่จะเป็นอิสระ เต็มไปด้วยความกลัวที่จะทำตาม ฝันที่อาจจะทำให้เราล้มเหลวเหมือนตอนที่ครูเรียกเราไปตอบคำถามหน้าชั้นเรียน แล้วเราตอบไม่ได้ แล้วอาย เราขายขี้หน้า เราถูกประจานว่าเราเป็นพวกไม่ได้เรื่อง เป็นพวกไม่มีวันประสบความสำเร็จ
วันนี้ผมจะมาปรับเปลี่ยนสมองคุณใหม่ นี่ไม่ใช่การ Motivate ไม่ใช่การให้ Inspiration หรือให้ความฝันลมๆแล้งๆว่าวันนี้คุณจะคว้าพลังอำนาจความสำเร็จมาไว้ในมือ แต่นี่คือการวิเคราะห์ตามความเป็นจริง เอาเรื่องจริงๆที่เรากลัวมาคุยกัน การวิเคราะห์และให้คุณฉุกคิดครั้งนี้ จะเปลี่ยนชีวิตคุณให้กล้าที่จะก้าวออกมาตามความฝันอย่างแท้จริง คำถามคือกล้าเปลี่ยนความคิดมาเชื่อคนอย่างผมหรือ ก่อนจะเชื่อลองฟังก่อนมั้ยว่า ผมค้นพบอะไร…!!!

ผมค้นพบอะไร…!!!

ผมทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน เงินเดือนขึ้นทุกครึ่งปี ผมทนตื่นเช้า กลับบ้านหลังงานเลิก เพื่อคำเดียว อนาคต ผมวาดฝันไว้ว่าวันหนึ่งผมจะมีทั้งเงินและเวลามากพอ ที่จะทำให้ครอบครัวของผมมีความสุข ผมฝันหวานอย่างนั้นเป็นปีๆ สิ่งที่ผมทำคือพยายามพัฒนาตัวเอง มองหน้าโอกาส เปลี่ยนงานเพื่อให้ตัวเองมีรายได้มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ผมวางไว้
เปรี้ยง…แม่ผมเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะ 3…!!!
อินเทรนด์มากครับ แม่ผมเป็นโรคที่ฆ่าชีวิตผู้ใหญ่ไทยอันดับต้นๆ พี่สาวผมเอาเครื่องคิดเลขมากด จำนวนเงินที่ใช้นั้น แพงกว่าเงินเดือนผมทั้งปี + โบนัสอีก แล้วเราทำงานเพื่ออะไร องค์กรได้ชีวิตเราไป แต่วันที่ครอบครัวต้องการ เรากลับไม่มีอะไรให้เลย
ผมลาออกภายใน 3 นาทีหลังจากรู้เรื่องราวของแม่ และผมอยากใช้เวลาอยู่กับแม่ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้านี่เป็นโอกาสสุดท้าย ผมอยากจะใช้ให้คุ้มที่สุดเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย ข่าวดีคือแม่ผมรักษาจนหายด้วยวิธีทางการแพทย์แผนปัจจุบัน 100% แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือการได้เห็นคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ชนิด 1 เดือนเต็มๆ
คนเราเกิดมาเพื่อตายครับ คำถามคือก่อนเราจะตาย เราได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการหรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ นั่นเรียกว่าการใช้ชีวิตหรือเปล่า ลองคิดดู ดังนั้นถ้าคุณคิดแล้วไม่เจอคำตอบ จะลองเอาคำตอบของผมไปใช้ก็ได้นะ ผมค้นพบว่าเราเกิดมา เพื่อใช้ชีวิตให้มีความสุข ตายอย่างคนที่มีความสุข และความสุขนั้น มันต้องเริ่มต้น ณ วันนี้ และบนโลกนี้ความสุขของเราคือรับใช้เจ้านายที่เรียกว่าความฝัน ความฝันที่จะไม่มีวันทรยศเรา ความฝันที่เหมือนเพื่อนคนหนึ่งของเรา ถ้าเราไม่คุยกับมันบ่อยๆ ไปเยี่ยมมันบ่อยๆ เอาใจมันบ่อยๆ วันหนึ่งมันจะหายไปจากเราตลอดการ
————————————
ปัญหาของคนที่มีเป้าหมายและความฝัน แต่ไม่กล้าออกมาลุยคืออะไร คำตอบเดียวที่ผมรับรู้ว่าเลยนะครับ คำตอบเดียว คือเรื่องเงิน…!!! ผมเชื่อว่าถ้าคุณรู้ว่าในอนาคตคุณทำตามความฝันของตัวเองแล้วมีรายได้เยอะ กว่างานประจำ 100 ทั้ง 100 เอาแน่ๆ และปัญหาต่อมาคือพนักงานกินเดือนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตหมดไปกับการทำงาน ให้คนอื่น จะเอาเวลาที่ไหนไปหารายได้ให้ได้มากกว่าเงินเดือน
คำตอบนี้ ให้ตาย ก็ไม่มีใครตอบได้ ถ้ามันเป็นคำตอบของคนอื่น วิธีเดียวที่จะทำให้คุณหลุดออกมาได้ คือคุณต้องหาคำตอบจากหัวใจและสมองตัวเอง เท่านั้น
ผมบังเอิญคิดค้นทฤษฏีนึง ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ อยากรู้ทำไง ตามอ่านต่อได้เลย
วิธีการสะกดจิตตัวเองให้กล้าออกมาตามความฝันนั้นง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ มีคนเอาโมเดลของผมไปทำแล้วเปลี่ยนชีวิตเขาไปเลย วิธีการง่ายๆครับโดยเอาเงินเดือนคุณนั่นเเหละเป็นโจทย์ สมมุติว่าถ้าคุณเงินเดือน xxx บาท คุณจะเริ่มเกิดคำถามใช่ไหมครับ ว่าทำอย่างไรคุณถึงจะสามารถหาเงินได้ xxx บาท หรือหาเงินได้เท่ากับงานประจำนั่นเเหละ
เห็นมั้ยง่ายจะตาย
จะบ้าเหรอ…!!!
อย่างนี้ถือเป็นการตั้งคำถามที่ผิด เพราะจากคนที่ทำแต่งานประจำ มันไม่มีทางอยู่แล้วที่จะหาเงินได้เท่ากับงานประจำด้วยวิธีอื่น พอคิดอย่างนี้นานๆเข้า คุณก็จะเริ่มเชื่อว่ามันไม่มีทางเลย ที่คุณจะหลุดออกจากงานประจำได้ มันไม่มีทางเลยที่ฝันของคุณจะเป็นจริง ยิ่งนาน ยิ่งท้อ ยิ่งไม่ศรัทธา ยิ่งไม่เชื่อ สุดท้ายก็ต้องรอตกงานไม่มีจะกินตอนแก่ ตอนที่ไม่มีแรงจะล่าฝันแล้ว
เอาใหม่ เอาเคสจริง ผู้ชายคนหนึ่งอายุ 36 ปี อาชีพมนุษย์เงินเดือน จำเป็นต้องซื้อรถยนต์สำหรับงาน มีค่าแก๊ส ค่ากิน ค่าใช้ต่างๆนานๆ เอาเงินเดือนของเขาเป็นตัวตั้งนะครับ เงินเดือน 30,000 บาท จากนั้นกางค่าใช้จ่าย Fixcost ในงานตัวเองออกมา ค่ารถเดือนละ 8,000 ค่าน้ำมัน 4,000 ค่ากิน 4,000 พอๆ ภาษี + ประกันสังคมประมาณ 2,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย 18,000 บาท เอาเท่านี้พอ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเอามาหักลบไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน จะเท่ากับว่าเขาทำอย่างจริงๆ ได้เงินเดือนหลังหักค้าใช้จ่าย 30000 – 18000 = 12,000 บาท
หลังจากหักค่าใช้จ่าย เท่ากับว่าเขาทำงานจริงๆ ได้เงินเดือน 12,000 บาท เพราะค่าใช้จ่ายทั้งหมด คือค่าใช้จ่ายที่ต้องแลกเพื่อให้เขาทำงานได้
ต่อมาคือเขาทำงานวันละ 9 ชั่วโมง เสียเวลาขับรถไป 1 ชั่วโมง และกลับ 1 ชั่วโมง ดังนั้นรวมกันเป็น 11 ชั่วโมง ทำงาน จ-ส เดือนหนึ่งทำงานประมาณ 25 วัน ดังนั้นกว่าจะได้เงินเดือน 1 เดือน เขาจะต้องทำงานทั้งหมด 11 x 25 = 275 ชั่วโมง เพื่อแลกกับเงิน 12,000 บาท
ทีนี้ลองเอาเวลาเป็นรายชั่วโมงมาเฉลี่ยเพื่อหารายได้ 12,000 บาท หารด้วย 275 ชั่วโมง จะเท่ากับ 43 บาทกว่าๆ นั่นหมายความว่าการทำงานของชายอายุ 36 ปีผู้นี้ ทำกำไรให้เขาชั่วโมงละ 43 บาทเท่านั้น
ชั่วโมงละ 43 บาท
รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย 12,000 บาท
เงินเดือน 30,000 บาท
หนึ่งชั่วโมงของคนๆนี้ ใช้ซื้อมันบดเล็กได้ 1 ถ้วย
————————————————
ลองอีกซักเคสมั้ยครับ ผู้ชายคนหนึ่งอายุ 26 ปี ทำงานเงินเดือน 24,000 บาท รถพ่อซื้อให้ ดังนั้นไม่นับเป็นรายจ่าย แต่ Fixcost ของเขาคือให้พ่อแม่ 4,000 ค่ากับข้าว 4,000 ค่าแก๊สเติมรถ 4,000 เสียภาษี 1,500 สรุปคือเขามีกำไรจากการทำงาน 24,000 – 4,000 - 4,000 - 4,000 – 1,500 = 10,500 บาทเท่านั้น
เขาทำงาน 9 ชั่วโมง ขับรถไปชั่วโมงครึ่ง ขับรถกลับชั่วโมงครึ่ง รวม 3 ชั่วโมง ทำงาน จ – ศ หนึ่งเดือนจะทำงานราวๆ 20 วัน จะเท่ากับ (9+3) x 20 = 240 ชั่วโมงต่อเดือน เอากำไรจากเงินเดือนมาหารด้วยชั่วโมงทำงาน จะเท่ากับ 10,500 หาร 240 บาท จะเท่ากับ 43 บาท เท่านั้น!!!
ชั่วโมงละ 43 บาท
รายได้หลังหักค่าใช่จ่าย 10,500 บาท
เงินเดือน 24,000 บาท
ไอ้นี่ก็ซื้อมันบดเล็กได้ 1 ถ้วย
————————————————
คุณลองเอาวิธีนี้ไปคิดดูครับ เอาเงินเดือนมารวมกัน หักค่าใช้จ่ายจำเป็นทิ้งให้หมด จากนั้นเอาเวลาที่คุณอยู่บนท้องถนนเพื่อไปทำงานรวมเข้ากับงานประจำ แล้วนำมาหารกัน ได้ผลลัพธ์เป็นรายได้ต่อชั่วโมงปุ๊ป คุณจะเห็นมูลค่าค่าตัวของคุณที่แท้จริงที่ได้จากการทำงาน 100%
แล้วประเด็นคือมันสำคัญตรงไหน ที่ให้คิดแบบนี้ ขอบอกว่าสำคัญมากครับ เพราะถ้าคุณเงินเดือน 24,000 บาท แล้วคุณมานั่งถามตัวเองว่าทำอย่างไรจะหาเงินได้ 24,000 บาทต่อเดือนดี คุณจะไม่ค้นพบคำตอบ แต่ถ้าคุณถามตัวเองว่า ทำอย่างไร ฉันถึงจะมีรายได้ชั่วโมงละ 43 บาท แค่นี้แหละครับ คำตอบอื้อเลย
ลองตอบคำถามผมหน่อยนะครับ ทำอย่างไรฉันถึงจะมีรายได้มากกว่า 43 บาท ง่ายมั้ยครับ และยิ่งถ้าเงินเดือนคุณไม่ถึง 20,000 ค่าชั่วโมงคุณมันก็จะต่ำลงมา บางคนที่ผมลองให้เขาคำนวนจริงๆ รายได้ต่อชั่วโมงต่ำกว่า 20 บาทก็มี
ดังนั้นหน้าที่ของคนที่ต้องการก้าวออกจากสนามมนุษย์เงินเดือน คือคำนวนตามสูตรที่ผมคิดค้น พอได้ตัวเลขจริงๆ ให้เขียนใส่กระดาษแปะไว้ที่ที่เรามองเห็นได้ง่าย ทุกที่ที่เรามองเห็น เพื่อความฝันการเขียนใส่กระดาษแล้วแปะเป็นการลงทุนที่ต่ำมาก หวังว่าแค่นี้คงทำกันได้ เขียนไว้เลยว่า “ทำอย่างไรฉันถึงจะมีรายได้ชั่วโมงละ xx บาท” ถามตัวเองทุกวัน ทุกครั้งที่มีโอกาส ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ ถามจนกว่าเราจะเกิดไอเดียที่เข้าท่า ยิ่งถามเร็ว ยิ่งเริ่มรู้เร็ว ยิ่งได้เปรียบ
การเป็นนายตัวเองมีข้อดีอีกข้อหนึ่งที่คุณควรจะตื่นเต้นมากๆ นั่นคือ การ เลือกเป็นนายตัวเอง คุณต้องลืมเรื่องเพดานเงินเดือนไปได้เลย คุณสามารถหารายได้ได้เท่ากับศักยภาพสูงสุดเท่าที่คุณมี เช่น มนุษย์เงินเดือนใช้เวลา 1 เดือนเพื่อหาเงิน 20,000 กว่าบาท ในขณะที่ผู้ที่เป็นนายตัวเองอาจจะใช้เวลาแค่อาทิตย์เดียว บางคนวันเดียว เพราะสมองของคนที่เป็นนายตัวเอง ทำตามความฝันตัวเองเปิดกว้างกว่าคนที่ทำงานประจำนะครับ คนเหล่านี้มองเห็นเงินทองกองอยู่เต็มไปหมด เพราะเขาจะมีเวลาคิดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีมากกว่าคนที่ต้องคิดเรื่องงานให้ องค์กรอย่างเดียว 9 ชั่วโมงต่อวันแน่นอน อย่างน้อยตอนนี้ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีรายได้มากกว่างานประจำหลายเท่า วันจันทร์ถึงศุกร์ผมเที่ยวเพราะคนน้อย ส่วนเสาร์อาทิตย์ผมเลือกที่จะทำงานเพราะออกไปไหนก็มีแต่คน

ดังนั้นอย่าลืมถามตัวเองทุกวันนะครับ ทำอย่างไรฉันถึงจะมีรายได้ต่อชั่วโมง x บาท เมื่อเริ่มคิดได้แล้วให้เอารายได้ต่อชั่วโมงคูณไปอีกเท่าตัวหนึ่ง ทำอย่างไรฉันถึงจะมีรายได้ต่อชั่วโมงมากกว่าเดิม 2 เท่า แล้วขยายไปเป็น 3 4 5 6 7 8 9 10 เท่า เมื่อเจอแล้ว ลงมือทำ กัดห้ามปล่อย จำไว้ว่าการเป็นนายตัวเองเหมือนการขี่จักรยาน ครั้งแรกๆทนเจ็บ ทนล้ม ทนถูกหยามหน่อย แต่ถ้าทำได้แล้วเป็นแล้ว มันก็จะเป็นสกิลติดตัวทั้งชีวิต…!!! ไม่ต้องกลับมาเรียนซ้ำ เอาเวลาไปเรียนเรื่องอื่นที่ทำให้ชีวิตดีกว่าเดิมได้เลย
จำไว้นะครับ การ ทำตามความฝันไม่ต้องขออนุญาตจากใคร คนอื่นเขามีวิธีร้อยแปดที่จะพูดให้คุณค้นพบว่าคุณไม่มีวันทำได้ อยากมีชีวิตแบบไหนเราต้องเป็นคนเลือก ไม่ใช่คนอื่นเลือกให้เรา อยากได้ชีวิตแบบไหนใหุ้ถามคนที่เขาได้ชีวิตแบบที่เราต้องการแล้ว อย่าไปถามคนที่เขายังทำไม่ได้เพราะมันจะไม่มีวันได้คำตอบ วันนี้ผมมีความสุขมากจากการทำตามความฝัน ชีวิตของผมในทุกๆวันเข้าใกล้เป้าหมายที่ผมตั้งทีละนิดๆ มันทำให้ผมรู้ว่าชีวิตที่เกิดมาเพื่อรับใช้ตัวเอง มันคือสุดยอดของการใช้ชีวิตแล้ว
อย่าลืมนะครับ พลังอำนาจใดๆบนโลกนี้ไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับพลังความเชื่อมั่น ถามตัวเองทุกวัน “ฉันจะทำอย่างไรให้มีรายได้ชั่วโมงละ xx บาท” แล้วลุย

เครดิตร บทความนี้จากคุณ Vit tarot ครับ

No comments:

Post a Comment